สู่การเป็นสตาร์ทอัพ ที่ประสบความสำเร็จ

0 Share
0
สู่การเป็นสตาร์ทอัพ ที่ประสบความสำเร็จ

หนทางสู่การเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ

ชั่วโมงนี้หากให้พูดถึงธุรกิจที่กำลังมาแรง คงต้องยกให้ธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ ไฟแรง หัวคิดสร้างสรรค์ กับแนวความคิดด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยแล้ว แต่ท่ามกลางธุรกิจสตาร์ทอัพที่ผุดขึ้นใหม่ราวกับดอกเห็ด เรามาดูกันว่าก่อนจะสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพได้คุณต้องรู้อะไรบ้าง
 
รู้ให้ลึกกับสตาร์ทอัพทั้ง 8 ประเภท
ก่อนอื่นเลยคุณควรรู้ว่าธุรกิจของคุณเองเป็นสตาร์ทอัพประเภทใด โดยทั่วไปแล้ว จะแบ่งออกเป็น 8 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
  1. FinTech ฟินเทค ย่อมาจาก Financial Technology คือสตาร์ทอัพด้านการเงิน การธนาคาร และการลงทุนเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรมทางการเงิน
  2. FoodTech ฟู้ดเทค ย่อมาจาก Food Technology เป็นการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร เช่น เปิดประสบการณ์รับประทานอาหารด้วยระบบ AR หรือ VR
  3. EdTech เอ็ดเทค ย่อมาจาก Education Technology คือการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาการเรียนการสอน ผ่านแพล็ตฟอร์ม หรือมีการสร้างเว็บบอร์ดถามตอบให้ผู้ปกครอง
  4. InsurTech อินชัวเทค ย่อมาจาก Insurance Technology เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจประกัน
  5. HealthTech เฮลท์เทค ย่อมาจาก Health Technology เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวงการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ หรือการรับคำปรึกษาจากแพทย์ โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล
  6. PropTech พร็อพเทค ย่อมาจาก Property Technology เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการบ้านด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ใหม่ๆ
  7. AgriTech อะกริเทค หรือแอคเทค ย่อมจากจาก Agriculture Technology การปรับให้ภาคเกษตรใช้เทคโนโลยีในการผลิต เพาะปลูก และดูแลพืช
  8. TravelTech ทราเวลเทค ย่อมาจาก Travel Technology พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก จองทริปหรู

เราจะทำธุรกิจสตาร์ทอัพให้ติดปีกสู่ความสำเร็จอย่างไร
คุณต้องรู้แน่ชัดว่าคุณคือสตาร์ทอัพด้านใด ก็ให้เดินหน้ามุ่งสู่ความสำเร็จกับหนทางที่ต้องเดินต่อไปนี้
 
  1. ไอเดียบรรเจิด ไม่ต่างจากครีเอทีฟ
การที่คุณจะนำหน้าสตาร์ทอัพรายอื่นๆ ได้ คุณต้องสร้างความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ต้องมีไอเดียใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์เกิดขึ้นเสมอ จะทำให้หนทางสู่ความสำเร็จ
 
  1. พร้อมทำงานหนัก
การเป็นสตาร์ทอัพคุณจะแทบไม่มีเวลาหรือวันหยุดพักผ่อนเลย เพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่นำสมัยมานำเสนอก่อนเจ้าอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ต้องพร้อมการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่มักมากับเทคโนโลยีตลอดเวลา
 
  1. เดินสายล่ารางวัลให้เป็นที่รู้จัก
เมื่อธุรกิจสตาร์ทอัพของคุณอยู่ตัวแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องปฏิบัติ คือ การทำให้บริษัทของตัวเอง เป็นที่รู้จัก จะด้วยการเข้าประกวดตามเวทีเฟ้นหาสตาร์ทอัพรายใหม่ๆ รวมไปถึงเวทีเสวนาด้าน Tech Talk
 
  1. ใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์
เราอยู่ในยุคดิจิทัล ที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิผลต่อการหายใจเข้าออกของมนุษย์ ฉะนั้นจงใช้สื่อโซเชียลให้เกิดประโยชน์ที่สุด เพราะหลายแพลตฟอร์มเปิดให้ใช้ได้ฟรี
 
  1. บริหารความเป็นหุ้นส่วน และยังรักษาตำแหน่งงานประจำไว้
แน่นอนว่าการเป็นสตาร์ทอัพไม่ได้เกิดขึ้นจากคนๆ เดียว แต่ต้องอาศัยหุ้นส่วนธุรกิจ บางคนมีหลายธุรกิจที่ต้องบริหารไปพร้อมๆ กัน ฉะนั้นคุณต้องให้น้ำหนักธุรกิจต่างๆ อย่างเหมาะสมไม่ขาดตกบกพร่องและไม่ละเลยหน้าที่ความเป็นหุ้นส่วน
 
เห็นไหมว่าหนทางการเข้าสู่ในธุรกิจสตาร์อัพนั้น ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันเลย เพียงแต่คุณต้องมุ่งมั่น ทำงานหนัก ชัดเจนในสิ่งที่ทำ และกล้าที่จะนำเสนอ เพียงเท่านี้โอกาสที่จะยืนหนึ่งในธุรกิจนี้ ไม่ไกลเกินเอื้อม
 

Source:
https://www.salika.co/2018/12/06/startup-by-sector/
IG : setgroupofficial
 
< ย้อนกลับ