กรุงศรีจัดให้ D สมัครบัตรเดบิตกดเงินฟรี ปลอดค่าธรรมเนียมธุรกรรม

บัตรสุดคุ้ม หมดกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม


กรุงศรีเดบิต จัดให้ D ทำบัตรเดบิตออนไลน์สุดสะดวก

ใช้จ่าย ชําระเงินออนไลน์ง่าย! เพียงสมัครบัตรเดบิตกับกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ใบเดียวครบ คุ้ม ฟรีค่าธรรมเนียม
 

ทำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ดีอย่างไร?

หากคุณกำลังมองหาบัตรเดบิตกดเงินฟรีใบใหม่ บัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยสามารถสมัครบัตรเดบิตแบบฟรีค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้ง่าย ๆ ทางออนไลน์หรือผ่านแอปพลิเคชัน KMA krungsri app ใช้งานทุกธุรกรรมฟรีตลอดชีพ จ่ายบิลฟรีค่าธรรมเนียม รวมถึงสามารถใช้บัตรเดบิตกดเงินแบบไม่มีค่าธรรมเนียมได้ที่ตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วประเทศ หรือจ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ รวมทั้งการเติมเงินและโอนเงินทั้งภายในธนาคารข้ามเขต ต่างธนาคาร และพร้อมเพย์ฟรีได้หลากหลายช่องทาง พร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะคุณที่สามารถกดรับได้ตลอดปีผ่านแอปพลิเคชัน
 

ขั้นตอนการสมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ผ่าน KMA krungsri app

  • เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ที่ KMA krungsri app เมื่อเปิดบัญชีเรียบร้อย เข้าที่หน้าบัญชีแล้วกด “สมัครบัตรเดบิต” แล้วทำตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้น
  • หลังสมัครบัตรสำเร็จ บัตรจะถูกส่งไปที่อยู่ ที่ได้ระบุไว้ภายใน 3-5 วันทำการ
 
krungsri gift ทุกเดือน

Krungsri GIFT
ทุกเดือน ตลอดปี

 
ฝาก ถอน โอน จ่าย ให้ครบ 4 ครั้ง ต่อเดือน ทำครบทุกเดือน รับ Krungsri GIFT ทุกเดือน
 
รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ D ที่ยังไม่ได้สมัครบัตร กรุงศรี เดบิต จัดให้ D เพียงสมัครบัตรวันนี้ - 31 ธ.ค. 64 ได้คืน 100 บาททุกเดือน ตลอดปี และรับ Krungsri GIFT ทุกเดือน ตลอดปี เมื่อทำธุรกรรมตามที่กำหนดผ่านบัญชีและบัตร
ใช้งานได้ฟรีตลอดชีพทุกธุรกรรมทางการเงิน
ฟรี
กดเงินที่ตู้ ATM
ได้ที่ตู้ทุกธนาคาร
ทุกตู้ทั่วประเทศไทย ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ฟรี
จ่ายบิลค่าสินค้า
และบริการ/เติมเงิน
ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/ATM
และที่สาขา
ฟรี
โอนเงินภายใน
ธนาคารข้ามเขต
ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/ATM
และที่สาขา
ฟรี
โอนเงินต่างธนาคาร
และโอนเงินพร้อมเพย์
ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/ATM
*สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้และบัตรเดบิตกรุงศรี จัดให้ D ที่สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถทำธุรกรรมได้ผ่านช่องทาง KMA/KOL/ATM เท่านั้น

มีบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ใบเดียวคุ้ม ตอบโจทย์ทุกการใช้จ่าย ฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมรับสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นดี ๆ ตลอดปีที่แอปพลิเคชัน KMA krungsri app

ได้ฟรีไม่ดีเท่าได้คืน กับบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D
รับโปรโมชั่นดีๆ ตลอดปี
 
ขั้นตอนการสมัครบัตร
เมื่อเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้แล้วกด ไอคอนสมัครบัตร
ขั้นตอนที่ 1
เมื่อเปิดบัญชีเงินฝาก
ออมทรัพย์จัดให้แล้ว
กดไอคอน "สมัครบัตร"
เลือก สมัครบัตร
ขั้นตอนที่ 2
เลือก "สมัครบัตร"
ศึกษาตารางเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์จากนั้นเลือก ถัดไป
ขั้นตอนที่ 3
ศึกษาตารางเปิดเผย
ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากนั้น
เลือก "ถัดไป"
ศึกษาข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ
ขั้นตอนที่ 4
ศึกษาข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ
หากเข้าใจและตกลงในเงื่อนไข
คลิกในช่องจากนั้นเลือก "ยอมรับ"
ลือกรูปแบบชื่อ นามสกุล ที่จะให้แสดงบนบัตร
ขั้นตอนที่ 5
เลือกรูปแบบชื่อ นามสกุล ที่จะให้แสดงบนบัตร และตรวจสอบที่อยู่ หากต้องการเปลี่ยนที่อยู่สำหรับจัดส่งบัตรเลือก "แก้ไข"
ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งจากนั้นเลือก ชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 6
ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นเลือก "ชำระเงิน"
เลือกบัญชีสำหรับชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 7
เลือกบัญชีสำหรับชำระเงิน
ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งจากนั้นเลือก ยืนยัน
ขั้นตอนที่ 8
ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นเลือก "ยืนยัน"
ระบุ PIN6 หลักเพื่อยืนยันการทำรายการ
ขั้นตอนที่ 9
ระบุ PIN 6 หลัก
เพื่อยืนยันการทำรายการ
สมัครบัตรสำเร็จบัตรจะถูกจัดส่งถึงที่อยู่ที่ระบุ ภายใน 3-5 วันทำกา
ขั้นตอนที่ 10
สมัครบัตรสำเร็จ
บัตรจะถูกจัดส่งถึงที่อยู่ที่ระบุ
ภายใน 3-5 วันทำการ


สมัครบัตรง่าย
สะดวก ทันใจ ไม่ต้องรอคิว
ลูกค้าสามารถทำรายการผ่านแอป KMA ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 - 22.30 น.
รายละเอียด
รายการค่าธรรมเนียม อัตราค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ * ไม่มี
ค่าธรรมเนียมการออกบัตรทดแทน* 100 บาท/บัตร
ค่าธรรมเนียมรายปี 400 บาท/บัตร
ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด และ/หรือสอบถามยอดคงเหลือ อัตราค่าธรรมเนียม
- เครื่องกรุงศรี ATM   
  • ทำรายการข้ามเขตสำนักหักบัญชี
ไม่มี
- เครื่อง ATM ของธนาคารอื่นในประเทศ ที่รองรับชิปการ์ด visa plus
  • ทำรายการข้ามเขตสำนักหักบัญชี
ไม่มี
* กรณีออกบัตรต่างสาขา เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30 บาท/บัตร
รายการค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ *
อัตราค่าธรรมเนียม : ไม่มี
ค่าธรรมเนียมการออกบัตรทดแทน*
อัตราค่าธรรมเนียม : 100 บาท/บัตร
ค่าธรรมเนียมรายปี
อัตราค่าธรรมเนียม : 400 บาท/บัตร
 
ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด และ/หรือสอบถามยอดคงเหลือ
เครื่องกรุงศรี ATM
ทำรายการข้ามเขตสำนักหักบัญชี
อัตราค่าธรรมเนียม : ไม่มี
เครื่อง ATM ของธนาคารอื่นในประเทศ ที่รองรับชิปการ์ด visa plus
ทำรายการข้ามเขตสำนักหักบัญชี
อัตราค่าธรรมเนียม : ไม่มี
* กรณีออกบัตรต่างสาขา เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30 บาท/บัตร
 
หมายเหตุ
  • กรณีผู้ถือบัตรเบิกถอนเงินสด และ/หรือชำระราคาสินค้า และ/หรือค่าบริการในต่างประเทศเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ ผู้ถือบัตรรับทราบและตกลงให้ธนาคารคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินใน อัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 ของยอดเงินที่เบิกถอน และ/หรือชำระราคาสินค้า และ/หรือบริการที่เกิดขึ้นโดยหักจากบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าว
  • อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารใช้แปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท สำหรับการใช้ชำระค่าสินค้า/บริการ และ/หรือเบิกถอนเงินสด เป็นอัตราที่ธนาคารกำหนดโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนกลางของ Visa International แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อใช้ในการอ้างอิงเบื้องต้นได้ที่นี่
  • อัตราค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอื่นๆผ่านบัตรเป็นไปตามประกาศของธนาคาร
คุณสมบัติของผู้สมัคร
  • อายุ 12 ปีขึ้นไป
  • มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ หรือ บัญชีออมทรัพย์จัดให้ออนไลน์     
เอกสารสำคัญประกอบการสมัครบัตรกรุงศรี เดบิต ออมทรัพย์จัดให้

กรณีสมัครบัตรผ่านสาขา

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง
  • สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้

กรณีสมัครบัตรผ่าน KMA - Krungsri Mobile App

  • มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ออนไลน์​
ข้อกำหนดและเงื่อนไข
  • รับสิทธิประโยชน์เมื่อเปิดบัญชี “ออมทรัพย์จัดให้” พร้อมทำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D
  • สิทธิประโยชน์จะสิ้นสุดลงเมื่อบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ถูกยกเลิก
  • ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้บริการและสิทธิประโยชน์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • อัตราดอกเบี้ยข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามประกาศธนาคาร
  • ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีชิปการ์ด ที่สามารถเก็บรักษาข้อมูลด้วยเทคโนโลยีระดับสูง พร้อมรหัสบัตรเดบิต (PIN number) 6 หลัก เพื่อให้มั่นใจได้ว่า บัตรเดบิตที่ใช้งานจะยากต่อการปลอมแปลง
  • เบิกถอนเงินสดได้สูงสุด 100,000 บาท/บัตร/วัน ได้ที่เครื่องกรุงศรี ATM หรือเครื่อง ATM ทั่วโลก ที่รองรับชิปการ์ด visa atm (สูงสุด 10 ครั้ง/วัน)
หมายเหตุ เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายจากการทุจริตโดยบุคคลอื่น ในการทำรายการเบิกถอนเงินสดที่ต่างประเทศ ธนาคารจึงขอสงวนสิทธิ์เพื่อปกป้องผู้ใช้บริการ โดยอาจปรับจำนวนครั้งในการเบิกถอนเงินสดต่างประเทศลง สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1572
- ถอนที่เครื่องกรุงศรี ATM ครั้งละไม่เกิน 30,000 บาท
- ถอนที่เครื่อง ATM ธนาคารอื่น ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของเครื่อง ATM ของแต่ละธนาคาร
  • สะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ visa ได้ทั่วโลก / ชำระผ่านออนไลน์ (Verified by VISA) / ชำระค่าสินค้าและบริการได้รวดเร็ว แค่แตะบัตรกับเครื่องรับชำระเงินที่มีเครื่องหมาย payWavepayWaveด้วยวงเงินใช้จ่ายสูงสุด 100,000 บาท/บัตร/วัน (รวมทั้งการเบิกถอนเงินสดผ่านเครื่อง EDC ณ เคาน์เตอร์สาขาธนาคาร และธนาคารสมาชิกทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีเครื่องหมาย visa)
  • สามารถเลือกกำหนดวงเงินใช้จ่ายของบัตร เพื่อซื้อสินค้าและบริการ โดยสามารถกำหนดวงเงินใช้จ่ายได้ถึง 5 ระดับ คือ 0 บาท, 20,000 บาท, 30,000 บาท, 50,000 บาท และ 100,000 บาท ได้ที่เครื่องกรุงศรี ATM และ Krungsri Phone 1572 และเปลี่ยนแปลงวงเงินได้วันละ 2 ครั้งต่อช่องทาง
  • สามารถเปลี่ยนรหัสประจำบัตร (PIN) ได้ที่เครื่องกรุงศรี ATM ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ท่านควรเปลี่ยนรหัสประจำบัตร (PIN) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการทำรายการ
  • สามารถโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรเดียวกันผ่านเครื่องกรุงศรี ATM โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อวัน และจำนวนเงินโอนรวมกันไม่เกิน 1,000,000 บาท ต่อวัน
  • โอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่นภายในธนาคารผ่านเครื่องกรุงศรี ATM ได้สูงสุด 200,000 บาท/บัตร/วัน (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
  • โอนเงินไปยังบัญชีใดๆ ระหว่างธนาคาร (ORFT) ผ่านเครื่องกรุงศรี ATM และเครื่อง ATM ธนาคารอื่น ที่รองรับชิปการ์ด visa atm ครั้งละไม่เกิน 50,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้งสูงสุด 100,000 บาท/บัตร/วัน
  • บริการชำระค่าสินค้าและบริการ (Bill Payment) สามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการของบริษัทต่างๆ ที่ธนาคารให้บริการรับชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต, ค่าไฟฟ้า, ค่าโทรศัพท์, ค่าโทรศัพท์มือถือ (AIS, DTAC, True Move), บริการเติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือ, ค่าเบี้ยประกันภัย/ประกันชีวิต, ค่าลงทะเบียนและอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการชำระให้ตนเอง หรือให้บุคคลอื่น โดยการหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันภายในวงเงินสูงสุด 200,000 บาท/บัตร/วัน
  • สามารถใช้บัตรสมัครใช้บริการต่างๆ ของธนาคารผ่านเครื่องกรุงศรี ATM ได้ อาทิเช่น
- Krungsri Online
- Krungsri Phone (IVR)
- Krungsri SMS Banking
- หักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Autopay Debit)

ดาวน์โหลดเอกสาร

 
ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการบัตรกรุงศรี เอทีเอ็มหรือบัตรกรุงศรี เดบิต
PDF
 
คู่มือการจัดการบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D บน KMA-Krungsri Mobile App
PDF

คำถามที่พบบ่อย

ค่าธรรมเนียมรายออกบัตรใหม่ ไม่มี
ค่าธรรมเนียมรายปี 400 บาท
ค่าธรรมเนียมออกบัตรทดแทนบัตรเสีย/บัตรหาย 100 บาท
เมื่อเปิดบัญชี “ออมทรัพย์จัดให้” พร้อมทำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D รับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมดังนี้
  1. ถอนเงินสดและการสอบถามยอด ที่เครื่อง Krungsri ATM และเครื่อง ATM ของธนาคารอื่นที่รองรับชิปการ์ด
  2. จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ/เติมเงิน ทุกรายการ ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM/สาขาธนาคาร
  3. โอนเงินภายในธนาคารข้ามเขตผ่านกรุงศรี Krungsri ATM/KMA/KOL/KBOL/สาขาธนาคาร
  4. โอนเงินต่างธนาคาร (ORFT) และโอนเงินพร้อมเพย์ ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM
หมายเหตุ:
  • สิทธิประโยชน์จะสิ้นสุดลงเมื่อบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ถูกยกเลิก
  • บัตรเดบิตกรุงศรี จัดให้ D ที่ผูกกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ ออน์ไลน์ (สมัครผ่านช่องทาง KMA) รับสิทธิประโยชน์ทำธุรกรรมแบบฟรีค่าธรรมเนียมได้ผ่านช่องทาง KMA/KOL/ATM เท่านั้น
ลูกค้าบางท่านอาจกังวลว่าหากสมัครบัตรเดบิตแล้วไม่ได้ใช้นานมีสิทธิ์จะถูกยกเลิกไหม ซึ่งหากลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมรายปี ก็จะยังคงสามารถใช้งานบัตรได้ตามปกติ จนกว่าจะถูกอายัด, ชำรุด, สูญหาย หรือหมดอายุ แต่หากธนาคารไม่สามารถตัดค่าธรรมเนียมได้ บัตรก็จะใช้งานไม่ได้จนกว่าจะตัดเงินสำเร็จ และหากไม่สามารถตัดค่าธรรมเนียมได้จนบัญชีถูกปิด บัตรก็จะถูกปิดไปเช่นกัน
สามารถสังเกตได้จาก Expiry Date ที่ด้านหน้าของบัตรเดบิต จะมีการระบุเดือนและปีที่บัตรจะหมดอายุการใช้งานเอาไว้อย่างชัดเจน
ลูกค้าสามารถตั้งค่าบัตรเดบิตได้ด้วยตัวเอง อาทิเช่น ปิดการใช้งานบัตรชั่วคราว , ปรับวงเงิน , สมัครหรือยกเลิก การซื้อสินค้าออนไลน์, ปลดล็อค OTP สำหรับการซื้อออนไลน์, สมัครบัตรใบใหม่, ออกบัตรทดแทน, เปิดการใช้งานบัตรครั้งแรก, จัดการ PIN ของบัตร เมื่อได้ “เพิ่มบัตรเดบิต” ที่ใช้อยู่เข้าไปใน KMA krungsri app

การเพิ่มบัตรเดบิต เข้าไปใน KMA krungsri app
เข้า KMA krungsri app > เลือก “บัญชีส่วนตัว” > กดเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีผูกกับบัตรเดบิต > เลือก “เพิ่มบัตรเดบิต” > กรอกข้อมูลบัตรเดบิตและทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ > เพิ่มบัตรสำเร็จ

การตั้งค่าบัตรเดบิต
เข้า KMA krungsri app > เลือก “บัญชีส่วนตัว” > กดเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีผูกกับบัตรเดบิต > เลือก “จัดการบัตรเดบิต”
  • ดำเนินการแจ้งอายัดบัตรผ่าน KRUNGSRI Call Center 1572
  • ทำการ “ปิดบัตรชั่วคราว” จากเมนูจัดการบัตรเดบิต ที่ KMA (กรณีลูกค้าได้เพิ่มบัตรเดบิตที่ KMA krungsri app ไว้แล้ว) จากนั้นแจ้งอายัดบัตรผ่าน KRUNGSRI Call Center 1572
สามารถใช้ได้ โดยลูกค้าต้องทำการ ลงทะเบียน Verified by VISA ก่อน โดยทำได้ผ่านช่องทางดังนี้
ช่องทางที่ 1: https://www.krungsri.com/th/verified-by-visa
ช่องทางที่ 2: KMA krungsri app (ลูกค้าต้องทำการเพิ่มบัตรเดบิตเข้า KMA ก่อน > จากนั้นเลือก “บัญชีส่วนตัว” > กดเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีผูกกับบัตรเดบิต >เลือก “จัดการบัตรเดบิต” > เปิด/ปิด การซื้อของออนไลน์ (Verified by VISA))
ใช้บัตรเดบิต จัดให้ D ในการโอนเงินได้ไหม
ลูกค้าบางท่านอาจสงสัยว่าจะนำบัตรเดบิตมาใช้ผ่อนของได้ไหม หรือใช้ผ่อนสินค้าได้ไหม เช่น จะใช้บัตรเดบิตในการผ่อนไอโฟนได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะแม้ว่าบัตรเดบิตจะใช้รูดซื้อสินค้าได้เหมือนบัตรเครดิต แต่ไม่สามารถทำการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระได้ เนื่องจากบัตรเดบิตถูกออกแบบมาเพื่อชำระสินค้าและรองรับการใช้งานจากจำนวนเงินที่มีในบัญชีโดยตรง
คุณสมบัติของผู้สมัคร
  • อายุ 12 ปีขึ้นไป
  • มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ หรือบัญชีออมทรัพย์จัดให้ออนไลน์

เอกสารสำคัญประกอบการสมัครบัตรกรุงศรี เดบิต ออมทรัพย์จัดให้
กรณีสมัครบัตรผ่านสาขา
  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง
  • สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ (สำหรับกรณีบัตรประชาชนชำรุด / สำหรับชาวต่างชาติ)
กรณีสมัครบัตรผ่าน KMA krungsri app
  • มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ออนไลน์

ข้อกำหนดและเงื่อนไข
  • รับสิทธิประโยชน์เมื่อเปิดบัญชี “ออมทรัพย์จัดให้” พร้อมทำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D
  • สิทธิประโยชน์จะสิ้นสุดลงเมื่อบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ถูกยกเลิก
สมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ได้ 1 บัตร ต่อ บัญชีกรุงศรีออมทรัพย์จัดให้ 1 บัญชี
บัญชีออมทรัพย์จัดให้ ช่องทางการสมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D
กรณีเปิดบัญชีออมทรัพย์จัดให้ ออนไลน์ ผ่าน KMA
  • KMA krungsri app
กรณีเปิดบัญชีออมทรัพย์จัดให้ ผ่านสาขาธนาคาร
  • KMA krungsri app
  • สาขาธนาคาร
หมายเหตุ: สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้และบัตรเดบิตกรุงศรี จัดให้ D ที่สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถรับสิทธิประโยชน์ทำธุรกรรมแบบฟรีค่าธรรมเนียมได้ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KRUNGSRI ATM เท่านั้น
บัญชี สมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่สาขา สมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่ KMA krungsri app รับสิทธิ์ ฟรี! ค่าธรรมเนียม ตามสิทธิประโยชน์หลักของบัตร
บัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ เปิดผ่านสาขา ได้ ได้ สำหรับการกดเงิน/ถามยอดที่ ATM ทุกธนาคารในประเทศ
  • ฟรีค่าธรรมเนียม
สำหรับการจ่ายบิลสินค้า&บริการ/เติมเงิน และโอนเงินภายในธนาคารข้ามเขต
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM/สาขา
สำหรับโอนเงินต่างธนาคารและโอนเงินพร้อมเพย์
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM
บัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ เปิดออนไลน์ผ่าน KMA ไม่ได้ ได้ สำหรับการกดเงิน/ถามยอดที่ ATM ทุกธนาคารในประเทศ
  • ฟรีค่าธรรมเนียม
สำหรับการจ่ายบิลสินค้า&บริการ/เติมเงิน และโอนเงินภายในธนาคารข้ามเขต
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/Krungsri ATM
สำหรับการโอนเงินต่างธนาคารและโอนเงินพร้อมเพย์
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/Krungsri ATM
หมายเหตุ: บัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่ผูกกับบัญชีกรุงศรีออมทรัพย์ จัดให้ ออนไลน์ (บัญชีเปิดผ่าน KMA) สามารถทำธุรกรรมได้ทุกช่องทางเช่นเดียวกับ บัตรที่สมัครบนบัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ (บัญชีเปิดผ่านสาขา) แต่สำหรับการรับสิทธิ์ฟรีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะเป็นไปตามตารางด้านบนเท่านั้น
เลข CVV บนบัตรเดบิต ย่อมาจาก Card Verification Value ซึ่งเป็นรหัสสำหรับยืนยันความปลอดภัยในการชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเดบิต ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่น โดยจะเป็นเลข 3 หลักที่อยู่ด้านหลังของบัตร
ค่าธรรมเนียมรายออกบัตรใหม่ ไม่มี
ค่าธรรมเนียมรายปี 400 บาท
ค่าธรรมเนียมออกบัตรทดแทนบัตรเสีย/บัตรหาย 100 บาท
เมื่อเปิดบัญชี “ออมทรัพย์จัดให้” พร้อมทำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D รับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมดังนี้
  1. ถอนเงินสดและการสอบถามยอด ที่เครื่อง Krungsri ATM และเครื่อง ATM ของธนาคารอื่นที่รองรับชิปการ์ด
  2. จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ/เติมเงิน ทุกรายการ ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM/สาขาธนาคาร
  3. โอนเงินภายในธนาคารข้ามเขตผ่านกรุงศรี Krungsri ATM/KMA/KOL/KBOL/สาขาธนาคาร
  4. โอนเงินต่างธนาคาร (ORFT) และโอนเงินพร้อมเพย์ ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM
หมายเหตุ:
  • สิทธิประโยชน์จะสิ้นสุดลงเมื่อบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ถูกยกเลิก
  • บัตรเดบิตกรุงศรี จัดให้ D ที่ผูกกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ ออน์ไลน์ (สมัครผ่านช่องทาง KMA) รับสิทธิประโยชน์ทำธุรกรรมแบบฟรีค่าธรรมเนียมได้ผ่านช่องทาง KMA/KOL/ATM เท่านั้น
ลูกค้าบางท่านอาจกังวลว่าหากสมัครบัตรเดบิตแล้วไม่ได้ใช้นานมีสิทธิ์จะถูกยกเลิกไหม ซึ่งหากลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมรายปี ก็จะยังคงสามารถใช้งานบัตรได้ตามปกติ จนกว่าจะถูกอายัด, ชำรุด, สูญหาย หรือหมดอายุ แต่หากธนาคารไม่สามารถตัดค่าธรรมเนียมได้ บัตรก็จะใช้งานไม่ได้จนกว่าจะตัดเงินสำเร็จ และหากไม่สามารถตัดค่าธรรมเนียมได้จนบัญชีถูกปิด บัตรก็จะถูกปิดไปเช่นกัน
สามารถสังเกตได้จาก Expiry Date ที่ด้านหน้าของบัตรเดบิต จะมีการระบุเดือนและปีที่บัตรจะหมดอายุการใช้งานเอาไว้อย่างชัดเจน
ลูกค้าสามารถตั้งค่าบัตรเดบิตได้ด้วยตัวเอง อาทิเช่น ปิดการใช้งานบัตรชั่วคราว , ปรับวงเงิน , สมัครหรือยกเลิก การซื้อสินค้าออนไลน์, ปลดล็อค OTP สำหรับการซื้อออนไลน์, สมัครบัตรใบใหม่, ออกบัตรทดแทน, เปิดการใช้งานบัตรครั้งแรก, จัดการ PIN ของบัตร เมื่อได้ “เพิ่มบัตรเดบิต” ที่ใช้อยู่เข้าไปใน KMA krungsri app

การเพิ่มบัตรเดบิต เข้าไปใน KMA krungsri app
เข้า KMA krungsri app > เลือก “บัญชีส่วนตัว” > กดเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีผูกกับบัตรเดบิต > เลือก “เพิ่มบัตรเดบิต” > กรอกข้อมูลบัตรเดบิตและทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ > เพิ่มบัตรสำเร็จ

การตั้งค่าบัตรเดบิต
เข้า KMA krungsri app > เลือก “บัญชีส่วนตัว” > กดเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีผูกกับบัตรเดบิต > เลือก “จัดการบัตรเดบิต”
  • ดำเนินการแจ้งอายัดบัตรผ่าน KRUNGSRI Call Center 1572
  • ทำการ “ปิดบัตรชั่วคราว” จากเมนูจัดการบัตรเดบิต ที่ KMA (กรณีลูกค้าได้เพิ่มบัตรเดบิตที่ KMA krungsri app ไว้แล้ว) จากนั้นแจ้งอายัดบัตรผ่าน KRUNGSRI Call Center 1572
สามารถใช้ได้ โดยลูกค้าต้องทำการ ลงทะเบียน Verified by VISA ก่อน โดยทำได้ผ่านช่องทางดังนี้
ช่องทางที่ 1: https://www.krungsri.com/th/verified-by-visa
ช่องทางที่ 2: KMA krungsri app (ลูกค้าต้องทำการเพิ่มบัตรเดบิตเข้า KMA ก่อน > จากนั้นเลือก “บัญชีส่วนตัว” > กดเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีผูกกับบัตรเดบิต >เลือก “จัดการบัตรเดบิต” > เปิด/ปิด การซื้อของออนไลน์ (Verified by VISA))
ใช้บัตรเดบิต จัดให้ D ในการโอนเงินได้ไหม
ลูกค้าบางท่านอาจสงสัยว่าจะนำบัตรเดบิตมาใช้ผ่อนของได้ไหม หรือใช้ผ่อนสินค้าได้ไหม เช่น จะใช้บัตรเดบิตในการผ่อนไอโฟนได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะแม้ว่าบัตรเดบิตจะใช้รูดซื้อสินค้าได้เหมือนบัตรเครดิต แต่ไม่สามารถทำการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระได้ เนื่องจากบัตรเดบิตถูกออกแบบมาเพื่อชำระสินค้าและรองรับการใช้งานจากจำนวนเงินที่มีในบัญชีโดยตรง
คุณสมบัติของผู้สมัคร
  • อายุ 12 ปีขึ้นไป
  • มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ หรือบัญชีออมทรัพย์จัดให้ออนไลน์

เอกสารสำคัญประกอบการสมัครบัตรกรุงศรี เดบิต ออมทรัพย์จัดให้
กรณีสมัครบัตรผ่านสาขา
  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง
  • สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ (สำหรับกรณีบัตรประชาชนชำรุด / สำหรับชาวต่างชาติ)
กรณีสมัครบัตรผ่าน KMA krungsri app
  • มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ออนไลน์

ข้อกำหนดและเงื่อนไข
  • รับสิทธิประโยชน์เมื่อเปิดบัญชี “ออมทรัพย์จัดให้” พร้อมทำบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D
  • สิทธิประโยชน์จะสิ้นสุดลงเมื่อบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ถูกยกเลิก
สมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ได้ 1 บัตร ต่อ บัญชีกรุงศรีออมทรัพย์จัดให้ 1 บัญชี
บัญชีออมทรัพย์จัดให้ ช่องทางการสมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D
กรณีเปิดบัญชีออมทรัพย์จัดให้ ออนไลน์ ผ่าน KMA
  • KMA krungsri app
กรณีเปิดบัญชีออมทรัพย์จัดให้ ผ่านสาขาธนาคาร
  • KMA krungsri app
  • สาขาธนาคาร
หมายเหตุ: สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้และบัตรเดบิตกรุงศรี จัดให้ D ที่สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถรับสิทธิประโยชน์ทำธุรกรรมแบบฟรีค่าธรรมเนียมได้ผ่านช่องทาง KMA/KOL/KRUNGSRI ATM เท่านั้น
บัญชี สมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่สาขา สมัครบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่ KMA krungsri app รับสิทธิ์ ฟรี! ค่าธรรมเนียม ตามสิทธิประโยชน์หลักของบัตร
บัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ เปิดผ่านสาขา ได้ ได้ สำหรับการกดเงิน/ถามยอดที่ ATM ทุกธนาคารในประเทศ
  • ฟรีค่าธรรมเนียม
สำหรับการจ่ายบิลสินค้า&บริการ/เติมเงิน และโอนเงินภายในธนาคารข้ามเขต
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM/สาขา
สำหรับโอนเงินต่างธนาคารและโอนเงินพร้อมเพย์
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/KBOL/Krungsri ATM
บัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ เปิดออนไลน์ผ่าน KMA ไม่ได้ ได้ สำหรับการกดเงิน/ถามยอดที่ ATM ทุกธนาคารในประเทศ
  • ฟรีค่าธรรมเนียม
สำหรับการจ่ายบิลสินค้า&บริการ/เติมเงิน และโอนเงินภายในธนาคารข้ามเขต
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/Krungsri ATM
สำหรับการโอนเงินต่างธนาคารและโอนเงินพร้อมเพย์
  • ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน KMA/KOL/Krungsri ATM
หมายเหตุ: บัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D ที่ผูกกับบัญชีกรุงศรีออมทรัพย์ จัดให้ ออนไลน์ (บัญชีเปิดผ่าน KMA) สามารถทำธุรกรรมได้ทุกช่องทางเช่นเดียวกับ บัตรที่สมัครบนบัญชีกรุงศรี ออมทรัพย์ จัดให้ (บัญชีเปิดผ่านสาขา) แต่สำหรับการรับสิทธิ์ฟรีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะเป็นไปตามตารางด้านบนเท่านั้น
เลข CVV บนบัตรเดบิต ย่อมาจาก Card Verification Value ซึ่งเป็นรหัสสำหรับยืนยันความปลอดภัยในการชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเดบิต ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่น โดยจะเป็นเลข 3 หลักที่อยู่ด้านหลังของบัตร

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อชีวิตสบาย

บัตรเดบิตของมัน (จำเป็น) ต้องมี! ใช้อะไรบ้างให้คุ้มค่า

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content">จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจนเริ่มคุ้นชินและเกิดการปรับตัวกับการใช้ชีวิตอยู่บ้านกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การใช้จ่ายในยามที่ต้องอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะคุ้นชินกับการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน การใช้บัตรเครดิต แต่ยังมีการใช้จ่ายอีกรูปแบบหนึ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยรู้ หรือเกิดความเข้าใจผิด จนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมี นั่นคือการจ่ายผ่านบัตรเดบิต วันนี้เราจึงมีข้อแนะนำการใช้บัตรเดบิตในหลาย ๆ มุมที่เราอาจจะยังไม่รู้ ว่าบัตรเดบิตมีวิธีใช้ยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบคำถามว่าสามารถใช้บัตรเดบิตในการซื้อของออนไลน์ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมได้ไหม และควรใช้อะไรบ้างให้ได้ความคุ้มสุด ๆ</div><!--end text content --><!-- start text sub title --><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">รู้หรือไม่ ทำไมต้องมี &lsquo;บัตรเดบิต&#39;</span></h2></div><!-- start text sub title --><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการใช้จ่ายเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปรู๊ดปร๊าด ทุกอย่างเกิดขึ้นง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วบนมือถือ แต่ไม่ว่าการจับจ่ายบนมือถือจะง่ายเพียงไร สิ่งที่ยังขาดไม่ได้ และ (จำเป็น) ต้องมีในกระเป๋าของทุกคน ก็คือ บัตรเดบิต</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1"><strong>ในยุคนี้ยังต้องมีบัตรเดบิตอีกหรือไม่? คงเป็นคำถามในใจของใครหลายคน วันนี้เราจะพามาเปิดใจ ลองดู 5 ประโยชน์สำคัญของบัตรเดบิตว่าควรใช้อะไรบ้าง รับรองว่าอ่านจบจะอยากเปิดบัตรกันเลยทีเดียว</strong></div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><!-- รูปในบทความกรณี 1 รูป --><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="บัตรเดบิตของมัน (จำเป็น) ต้องมี ใช้อย่างไรให้คุ้มค่า" class="img-fluid" src="/getmedia/721d289c-e09f-47f2-89c6-75614797f8b3/debit-card-benefit-detail.jpg.aspx" /></center></div><!-- ปิด รูปในบทความกรณี 1 รูป --><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1"><ol> <li><strong>กดเงินสด (ฉุกเฉิน) ตู้ไหนก็ได้ ฟรี</strong> สำหรับคนที่ต้องการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มแต่ไม่มีบัตรเดบิตอยู่กับตัวจะเข้าใจถึงปัญหานี้ดี เพราะในวันที่เรามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้เงินสดแล้วโชคชะตาไม่เป็นใจ หันซ้ายหันขวาก็เจอแต่ตู้ธนาคารที่ไม่คุ้นเคย ต่อให้มีแอปฯ กดถอนเงินสดแบบไม่ใช้บัตรก็ใช้ไม่ได้ แต่หากเรามีบัตรเดบิตอยู่ในมือ นอกจากจะคลายความกังวลในการตระเวนหาตู้กดเงินแล้ว ยังสบายใจไร้กังวลเพราะไม่มีเงื่อนไขจุกจิกกวนใจ ด้วยการใช้บัตรเดบิตที่ให้ฟรีค่าธรรมเนียม ทำให้เราสามารถใช้บัตรเดบิตได้กับตู้เอทีเอ็มทุกธนาคาร ทั่วไทย โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งด้วยนั่นเอง</li> <li><strong>ซื้อ-จ่าย ได้สิทธิพิเศษมากกว่า</strong> รู้หรือไม่ว่าบัตรเดบิตใช้รูดซื้อของ หรือจ่ายค่าบริการได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทร ค่าเน็ต ค่าใช้จ่ายประจำวันตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น สั่งอาหาร เติมน้ำมัน เรียกได้ว่าเราสามารถใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดได้เกือบทุกอย่าง ยิ่งถ้าเป็นการชำระสินค้าที่มียอดชำระสูง การหอบเงินสดไปจ่าย หรือต้องเดินหาตู้เอทีเอ็มเพื่อถอนเงินสดจำนวนมากออกมา คงไม่สะดวกนัก บัตรเดบิตจึงเข้ามาเสิร์ฟจุดนี้ได้อย่างตรงใจ นอกจากนั้นยังมักมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ติดมากับบัตรด้วย ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดพิเศษต่าง ๆ หรือ e-Coupon เพื่อนำไปใช้จ่ายได้ต่อ รวมทั้งโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างความสะดวกสบาย มอบความคุ้มค่าให้ผู้ใช้บัตรเดบิต</li> <li><strong>ใช้บัตรเดบิตผ่านออนไลน์</strong> โดยไม่ต้องออกจากบ้าน เมื่อพูดถึงคำว่า &ldquo;บัตร&rdquo; เราอาจตีกรอบไปว่าต้องพกพาการ์ดแข็ง ๆ ออกไปใช้งานเท่านั้น แต่ความจริงแล้วบัตรเดบิตยังสามารถนำมาใช้กับการซื้อของออนไลน์ในทุกช่วงเวลาได้สบาย ๆ เพียงกรอกเลขบัตรในตัวเลือกช่องทางชำระเงินแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ก็ทำให้เราสามารถช้อปปิ้ง จ่ายบิล ซื้อไอเท็มเกมที่เรากำลังอินอยู่ จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินค่าเดินทางต่าง ๆ หรือจ่ายค่าสตรีมมิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ ที่เราเป็นสมาชิก ซึ่งในส่วนนี้จะต้องตรวจสอบให้ดี เพราะแม้ว่าปกติบัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์วีซ่าและมาสเตอร์การ์ด จะใช้สมัครดูหนังกับ Netflix หรือสตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้ทั้งหมด แต่บ่อยครั้งก็อาจมีปัญหาที่บัตรเดบิตถูกปฏิเสธการชำระเงิน ทำให้สมัคร Netflix ไม่ได้เช่นกัน หากเกิดปัญหาเช่นนี้ ควรดูให้ดีว่าข้อมูลการชำระเงินที่ให้ไว้ใน Netflix ตรงกับข้อมูลธนาคารที่อยู่ในระบบหรือไม่ และอีกสิjงสำคัญที่ต้องตรวจเช็ก คือเราได้ทำการลงทะเบียนบัตรเดบิตให้สามารถใช้จ่ายออนไลน์แล้วหรือยัง เพราะหากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว การใช้บัตรเดบิตในการชำระเงินก็ถือเป็นวิธีการชำระเงินที่สะดวกมากที่สุดแล้วในตอนนี้</li> <li><strong>หลักการชาญฉลาดของคนมีเงินในบัญชี</strong> เมื่อเทียบความแตกต่างของการใช้เดบิตกับช่องทางอื่น ๆ ก็ต้องยอมรับว่าการใช้เดบิตทำให้เรามีวินัยในการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะต้องใช้เงินเท่าที่มีอยู่ในบัญชี จึงเป็นผลพลอยได้ให้เราควบคุมการเงินได้แบบอัตโนมัติ และทำให้เราวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นด้วย ทำให้มีสติในการใช้จ่าย ได้บริหารเงินที่มีอยู่แท้จริง โดยไม่เอาเงินอนาคตมาใช้ จึงไม่เป็นหนี้ 100% และไม่จำเป็นต้องกังวลกับค่าปรับหรือดอกเบี้ยที่จะตามมาภายหลังอีกด้วย</li> <li><strong>เปิดบัญชีมีบัตรทันที ไม่ต้องรออนุมัติ</strong> อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนชอบใช้บัตรเดบิต เพราะความง่ายในการเปิดใช้บริการ เพียงแค่เปิดบัญชีออมทรัพย์ก็สามารถสมัครบัตรเดบิตได้ทันทีภายในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องยื่นเอกสารรับรองสถานะการเงินหรือสเตทเมนต์ต่าง ๆ เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ก็มีเพียงแค่บัตรประชาชนเท่านั้น</li></ol></div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ด้วยข้อดีมากมายเหล่านี้ ทำให้บัตรเดบิตยังเป็น &ldquo;ของมันต้องมี&rdquo; ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบริหารเงินและอำนวยความสะดวกทางการเงินให้แก่เราได้ แต่อาจยังมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่จะใช้ อย่างค่าธรรมเนียมรายปี และสิทธิพิเศษต่าง ๆ <strong>นั่นจึงทำให้เราต้องเลือกให้ดีว่าบัตรเดบิตใบไหนตอบโจทย์เราที่สุด เพื่อให้เราได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด</strong><br /><br />ขอแนะนำบัญชีออมทรัพย์จัดให้ D และบัตรกรุงศรีเดบิต จัดให้ D ที่ถือเป็นบัตรเดบิตที่คุ้มที่สุดในตลาด เพราะค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าต้องจ่ายนั้น จะคืนกลับให้ลูกค้าแบบคุ้มแสนคุ้ม โดยส่งมอบสิทธิประโยชน์เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้ทุกคนสามารถมีพฤติกรรมเดิม ๆ ทั้ง จ่าย โอน ถอน เติมเงิน หรือทำธุรกรรมอื่น ๆ โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม แค่ทำธุรกรรมตามปกติเป็นประจำ ก็ได้ความคุ้มค่ากลับมามากกว่าการจ่าย มาดูกันว่าบัญชีออมทรัพย์จัดให้ D และบัตรกรุงศรีเดบิต จัดให้ D มีแล้วคุ้มยังไง<h3><br />ทำไมบัตรกรุงศรีเดบิต จัดให้ D ถึงคุ้มค่า เปรียบเทียบบัตรกรุงศรี เดบิต จัดให้ D กับ บัตรเดบิตทั่วไป</h3><!--<div class="table-responsive"><div class="d-block d-md-none box-hand_touch"><i class="fa fa-arrows hand_touch">&zwnj;</i></div><table class="table table-scrollable"> <thead> <tr> <th style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">&nbsp;</th> <th style=" border-right: 1px solid #e8e8e8; ">บัตรเดบิต กรุงศรี จัดให้ D</th> <th>บัตรเดบิตทั่วไปในตลาด</th> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">ค่าธรรมเนียมแรกเข้า</td> <td class="text-center" style=" border-right: 1px solid #e8e8e8; color: #008000;">ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า</td> <td class="text-center" style="">100 &ndash; 500 บาท</td> </tr> <tr> <td style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">ค่าธรรมเนียมรายปี</td> <td class="text-center" style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">400 บาท</td> <td class="text-center">200 - 1,599 บาท</td> </tr> <tr> <td style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">สิทธิพิเศษเมื่อสมัครบัตร</td> <td class="text-center" style=" border-right: 1px solid #e8e8e8; color: #008000;">e-Coupon 200 บาท</td> <td class="text-center" style=" color: #ff0000;"><img src="/getmedia/bd0b77f0-1f45-456b-ac20-268b7d5c174a/false-icon.png.aspx" /></td> </tr> <tr> <td style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">สิทธิพิเศษเมื่อทำธุรกรรมผ่านบัตร</td> <td class="text-center" style=" border-right: 1px solid #e8e8e8; color: #008000;">e-Coupon 100 บาท ทุกเดือนสิ้นสุด 31 ธ.ค. 64</td> <td class="text-center" style=" color: #ff0000;"><img src="/getmedia/bd0b77f0-1f45-456b-ac20-268b7d5c174a/false-icon.png.aspx" /></td> </tr> <tr> <td style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">ฟรีค่าธรรมเนียม ถอนเงินข้ามเขตจากตู้ ATM<br /> ทุกตู้ ทุกธนาคาร ทั่วไทย ไม่จำกัดจำนวนครั้ง</td> <td class="text-center" style=" border-right: 1px solid #e8e8e8; color: #008000;">ฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียม</td> <td class="text-center">10 - 30 บาท</td> </tr> <tr> <td style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;">ฟรี ค่าธรรมเนียมจ่ายบิล</td> <td class="text-center" style=" border-right: 1px solid #e8e8e8;"><img src="/getmedia/7b971fa1-6fab-4f82-99e4-2d22991e506c/true-icon.png.aspx" /> สิทธิพิเศษจากธนาคาร Krungsri GIFT และโปรโมชั่นกับร้านค้าต่างๆ<br />เช่น shopee, Lazada และ IMAX เป็นต้น ตามเงื่อนไขแต่ละประเภทบัตรของแต่ละธนาคาร โปรโมชั่นส่วนลด </div>--></div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เห็นแบบนี้แล้ว ต้องเปลี่ยนมาใช้บัญชีออมทรัพย์จัดให้ D และบัตรกรุงศรีเดบิต จัดให้ D ที่มอบความคุ้มค่าได้มากกว่า พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย เพียง<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/digital-banking/kma/home" target="_blank">สมัครบัญชีออมทรัพย์ และบัตรเดบิต &ldquo;จัดให้ D&rdquo;</a> ระหว่างวันนี้ - 31 สิงหาคม 2566 เท่านั้น!! ผู้สนใจเปิดบัญชี สมัครเลย ที่ KMA krungsri app <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/deposit/savings-account/jadhaiD" target="_blank">สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้</a> <strong>กรุงศรีจัดให้ D จัดให้ฟรีเต็ม ๆ</strong></div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px;}</style></div>
ks-coach
3 Min Read
share
เพื่อชีวิตสบาย

4 วิธีออมเงิน เริ่มเก็บเงินง่าย ๆ ได้ผลจริงด้วยกฎ 30 วัน!

ใครบ้างกำลังมองหาว่า&hellip; มี<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/life/good-life/separate-bank-accounts-salaryman" target="_blank">วิธีการออมเงินง่าย ๆ</a> ที่ได้ผลจริงไหมนะ<br /> <br /> ถ้าใช่ บทความนี้จะเป็นเข็มทิศนำทางวิธีการออมเงินดี ๆ ที่เราจะพลาดไม่ได้เลย โดยที่ขั้นแรกเราต้องมีเป้าหมายในการออมเงิน และมีความมุ่งมั่นเพื่อสร้างให้เป็นนิสัยกันเสียก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ยังเสี่ยงที่จะตกหลุมพรางให้กับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตั้งแต่ของจำเป็นต้องมีไปจนถึงของที่ไม่จำเป็นแต่อยากได้<br /> <br /> ดังนั้นจะทำอย่างไรดีเพื่อให้การออมเงินเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น?<br /> <br /> สำหรับผู้เริ่มต้น เราขอแนะนำ &ldquo;กฎการออม 30 วัน&rdquo; ซึ่งเป็นวิธียอดนิยมที่จะช่วยให้จัดสรรเงินได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งวิธีการออมนั้นง่ายมาก เช่น ถ้าหากอยากได้ของชิ้นหนึ่งแบบสุด ๆ ให้ลองรอให้ครบ 30 วันก่อน โดยนำเงินส่วนที่จะไปซื้อนำไปออมแทน เมื่อถึงเวลาซื้อแต่ความอยากได้หมดไปนั่นแสดงว่าเงินจะคงอยู่ในบัญชีออมทรัพย์กลายเป็นเงินออมเพื่ออนาคตไปอย่างถาวร วิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดเงินได้มากขึ้นเมื่อเราทำเป็นประจำในเวลาที่อยากช้อป<br /> <br /> แต่ก่อนที่จะใช้กฎการออม 30 วัน สิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้าใจกฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วันกันก่อน ซึ่งเราเตรียมมาให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว<br /> &nbsp; <center><img alt="กฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วัน คืออะไร?" class="img-fluid" src="/getmedia/7a42da7d-a949-4f67-b6d7-ccb116916eb2/30-days-saving-rule-detail-01.jpeg.aspx" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">กฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วัน คืออะไร? การออมเงินเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยสิ่งนี้</span></h2> </div> เราทุกคนถูกล่อลวงด้วย รูป กลิ่น เสียง จากโฆษณา และสื่อต่าง ๆ บางทีเราอาจเดินเข้าไปในร้านค้าแล้วเจอของที่อยากซื้อ หรือบางทีอาจเห็นโฆษณาที่น่าสนใจบอกเล่าผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ จนเกิดการอยากทดลองใช้<br /> <br /> ถ้าพบว่าตัวเองกำลังคิดที่จะซื้อ หรือใช้จ่ายเงิน โดยมีอารมณ์ของตัวเองเป็นหลักมากกว่าดูเรื่องงบประมาณที่เรามี นั่นก็เข้าข่ายการถูกชักจูงให้ซื้อตามสิ่งกระตุ้นแล้วล่ะ ซึ่งการซื้อของด้วยสิ่งกระตุ้นอาจทำให้เงินในส่วนที่จะออมหมดไปอย่างง่ายดาย หรือแม้กระทั่งทำให้กลายเป็นหนี้สะสมมากขึ้นจนจ่ายไม่ไหว นี่คือจุดที่กฎการใช้จ่ายตามแรงกระตุ้น 30 วัน ออกฤทธิ์แล้วนั่นเอง<br /> <br /> เพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อตามแรงกระตุ้น ให้บอกตัวเองอยู่เสมอว่า &ldquo;จะต้องรอเป็นเวลา 30 วัน&rdquo; โดยหยิบกระดาษโน้ตหนึ่งแผ่น แล้วจดชื่อสินค้าหรือบริการที่หมายตาเอาไว้ รวมถึงราคาในตอนนั้น แปะโน้ตในที่ที่เห็นง่าย ๆ เช่น ตู้เย็น กระจก ฯลฯ และตั้งเป้าไว้ว่าในอีก 30 วันข้างหน้าจะกลับมาซื้อแน่นอน<br /> <br /> เมื่อครบกำหนดวันที่ต้องกลับไปซื้อ หากยังคงรู้สึกว่าต้องการอยู่ก็ให้ซื้อไปได้เลย แต่ในทางกลับกันถ้าหากความต้องการจางหายไปจากในความคิดแล้วแสดงว่ากฎการออมเงิน 30 วันทำงานได้ผลเต็มร้อย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการออมเงินแบบง่าย ๆ ที่น่าเอาไปปรับใช้กันได้ทุกคนเลย<br /> &nbsp; <center><img alt="กฎการออมเงิน 30 วันมีความเกี่ยวข้องอย่างไร กับ กฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วัน?" class="img-fluid" src="/getmedia/6a7f3edd-266d-4b02-9e3e-4b6981537ae0/30-days-saving-rule-detail-02.jpeg.aspx" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">กฎการออมเงิน 30 วันมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับกฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วัน?</span></h2> </div> ขณะที่เรากำลังคิดว่าจะซื้อของที่เกิดจากแรงกระตุ้นในช่วง 30 วัน ให้เริ่มโยกเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ซะ แล้วมองว่าเงินก่อนนี้ คือ เงินที่จะใช้ในการซื้อ หากครบ 30 วันแล้ว ยังอยากซื้ออยู่ก็สามารถนำเงินออกไปซื้อได้เลย แต่เงินนั้นจะไม่ใช่เงินออมเพื่ออนาคตอีกต่อไป กฎนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสที่ง่ายที่สุดในการออมอย่างสม่ำเสมอ และเป็นการวัดใจเรื่องนิสัยการช้อปไปในตัว ซึ่งเราจะรู้เลยว่าของสิ่งนั้นแค่อยากได้หรือจำเป็นต้องมี<br /> <br /> ทำไมเราถึงอยากให้ทุกคนลองมาใช้กฎนี้ นั่นก็เพราะเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน เราจะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ไหนจะค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าบ้าน หรือค่ารถ การมีเงินออมจะช่วยทำให้เราอุ่นใจเมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องใช้เงิน <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">4 วิธีออมเงิน เพิ่มความสนุกให้กับกฎการออมเงิน 30 วัน </span></h2> </div> <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/life/retirement/financial-freedom" target="_blank">การออมเงิน</a> แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน แต่การสร้างความท้าทายจะเพิ่มความสนุกให้กับการออมได้มากยิ่งขึ้น&hellip; ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันเลย <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. เก็บเงินทอน </strong></span></h3> หากเราต้องการเพิ่มเงินออม จะต้องทำให้เกิดการออมเงินให้ถี่ขึ้น ให้เท่าที่ใช้จ่ายเงินออกไป ทุกครั้งที่ซื้อของ ให้เก็บเงินทอนไว้ทุกครั้งเพื่อนำไปออมเงิน การเก็บเงินทอน หรือเหรียญอาจจะฟังดูไม่มาก แต่จำนวนเงินจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปอย่างแน่นอน เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นวิธีการออมเงินแบบง่าย ๆ แล้ว<br /> <br /> ส่วนที่ดีที่สุด คือ เราสามารถเพิ่มความท้าทายในการออมเงินนี้ด้วยการปัดเศษ เช่น ได้เงินทอนมา 57 บาท ก็ปัดให้เป็น 60 บาท และนำเงินส่วนนี้ไปเก็บเป็นเงินออม<br /> &nbsp; <center><img alt="การออมเงินด้วยการชาเลนจ์ไม่ทานอาหารนอกบ้าน" class="img-fluid" src="/getmedia/27370683-7ef9-442a-a0c6-e8e84df67bdc/30-days-saving-rule-detail-03.jpeg.aspx" /></center> <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. ชาเลนจ์ไม่ทานอาหารนอกบ้าน</strong></span></h3> เราใช้เงินไปกับการทานอาหารนอกบ้านเท่าไหร่ในแต่ละวัน? กินบุฟเฟต์กี่ครั้งต่อสัปดาห์? หรือทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัวทุกวันศุกร์หรือไม่?<br /> <br /> การใช้จ่ายทั้งหมดเหล่านี้ ถ้าลองมาคำนวณดู เราจะแปลกใจเลยที่ได้เห็นว่า รายจ่ายใช้ไปกับร้านอาหารเป็นจำนวนไม่น้อยเลยในเวลา 30 วัน<br /> <br /> <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/borrowing/clear-debt-and-restart-money-good" target="_blank">การแก้ไขปัญหานี้ก็ไม่ยาก</a> แค่จะต้องตั้งเป้า และตั้งใจที่จะทานอาหารที่บ้านให้มากขึ้นเป็นเวลา 30 วัน และมาดูผลลัพธ์ว่าจะสามารถประหยัดได้มากแค่ไหน ซึ่งสิ่งที่ควรทำเลย คือ การทำอาหารทานเองที่บ้านในทุก ๆ มื้อ<br /> <br /> จำนวนเงินที่เหลือจากการไม่ได้ทานอาหารนอกบ้าน สามารถนำมาคาดการณ์จำนวนเงินที่จะประหยัด และตั้งค่าการโอนเงินออมอัตโนมัติเข้าบัญชีเงินฝากประจำได้ ซึ่ง<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/digital-banking/kma/services/how-to-set-txn-schedule" target="_blank">การตั้งค่าการหักเงินออมอัตโนมัติ</a>สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ โมบายแบงก์กิ้ง <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/digital-banking/kma/home" target="_blank">KMA-Krungsri Mobile App</a> ได้อีกด้วย <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. ออมเงิน 100 บาท ใน 30 วัน</strong></span></h3> การออมเงิน 100 บาท ใน 30 วัน เป็นการเริ่มต้นการออมที่ดี เนื่องจากการออมเงิน 100 บาททุกวัน ภายในระยะเวลา 30 วัน จะเป็นสิ่งที่การันตี และช่วยคุณในยามฉุกเฉินได้ อีกทั้งยังมีเงินออมเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันอีกด้วย โดยที่กุญแจสู่ความสำเร็จ คือ การทำลายเป้าหมาย 100 บาท และกำหนดจำนวนเงินออมรายสัปดาห์ หรือรายวันให้เพิ่มขึ้น<br /> <br /> เช่น คุณสามารถประหยัดเงินได้เพียง 50 บาท หรือ 60 บาท ต่อวัน หรือ 350 บาท ต่อสัปดาห์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการออม 100 ที่ตั้งไว้นั้นเอง<br /> <br /> มากไปกว่านั้นยังสามารถดูงบประมาณ และดูว่ามีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่สามารถตัดออกเพื่อประหยัดได้<br /> &nbsp; <center><img alt="การออมเงินแบบ 50-30-20" class="img-fluid" src="/getmedia/e60c6dad-c413-4898-b5bd-38d683967d79/30-days-saving-rule-detail-04.jpeg.aspx" /></center> <br /> มีอีกเทคนิคหนึ่งที่สามารถใช้ร่วมกับกฎ 30 วันได้นั้นก็คือ &ldquo;การออมเงินแบบ 50-30-20&rdquo; <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. เทคนิคการออมเงิน 50-30-20</strong></span></h3> การออมเงิน 50-30-20 คือ <ul class="ml-20px-all mb-20px-all"> <li>50% ของรายรับ จะเป็นรายจ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นรายจ่ายประเภทที่ขาดไม่ได้ อาทิ ค่าน้ำมันรถ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และอื่น ๆ</li> <li>30% ของรายได้ คือในส่วนของสิ่งที่เราอยากได้ ซึ่งจะเป็นรายจ่ายทางเลือกที่ควบคุมได้ในกฎ 30 วัน</li> <li>20% ของรายรับ คือเงินฉุกเฉินในอนาคต หรือเงินออมเพื่อต่อยอด ออมเพื่อลงทุนนั่นเอง</li> </ul> ซึ่งเงิน 20% หลายคนมักจะนำไปลงทุน ซื้อกองทุน หรือฝากประจำกันอยู่แล้ว แต่รายจ่ายในส่วน 30% หากสามารถประหยัดรายจ่ายส่วนนี้ได้ จะช่วยเสริมให้เงินออมเพิ่มมากขึ้น และมีเงินเก็บแต่ละเดือนมากกว่า 20% นั่นเอง<br /> <br /> <strong>สรุป</strong> การออมด้วยกฎ 30 วันเป็นการเริ่มต้นที่ดี หากเราสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นภายในระยะเวลา 30 วัน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี จะช่วยให้เรามีวินัยในการออมเงินอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายเดือน หรือหลายปี<br /> <br /> ก่อนจะปิดหน้านี้ไป การออมจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าทุกคนไม่ได้นำไปลองปรับใช้กัน ซึ่งเราได้แนะนำวิธีการออมแบบง่าย ๆ ให้แล้ว ต่อไปคือตาเราที่จะเริ่มลงมือออมเงินด้วย กฎการออม 30 วัน ด้วยตัวเอง <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style>
ks-coach
3 Min Read
share
เพื่อชีวิตสบาย

บริหารเงินอย่างฉลาดตั้งแต่เริ่มทำงานปีแรก

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content">มนุษย์เงินเดือน รวยได้ไม่ยากหากบริหารเงินเป็น! เราคงจะเคยได้ยินคำถามในเชิงตัดพ้อประมาณว่า &ldquo;เมื่อไหร่เราจะรวย?&rdquo; เพราะการใช้เงินเดือนชนเดือน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไร้เงินเก็บในบัญชี รายจ่ายยังยาวเป็นหางว่าว ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต นี่ยังไม่นับรวมไลฟ์สไตล์ตามเทรนด์แบบคนเมือง ที่ใครเขาเห่ออะไรใหม่ก็ขอมีด้วยคน กินข้าวมื้อหรู กาแฟแก้วละเกือบ 200 บาท หนังโรงเรื่องเด็ดไม่เคยพลาด ไหนจะค่าทำหน้า ทำผม ทำผิวอีกสารพัด สุดท้ายก็ตกอับ นั่งซดมาม่าไปพลาง ๆ ก่อนสิ้นเดือน<br />&nbsp;</div><div style="display:block;padding:10px;border:solid 3px #FD0;font-size:12pt;text-align:center;"><strong>&quot;คนที่เพิ่งจะเริ่มต้นเข้าทำงานใหม่ หรือที่ทำงานมาสักระยะควรจัดระบบความคิดทั้งหมดใหม่ ... ให้ความสำคัญมากที่สุดกับการใช้ช่วงเวลาและเงินออมในช่วงที่ยังมีเรี่ยวมีแรงทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด&quot;</strong></div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ด้วยการบริหารเงินเดือนอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะคนที่เพิ่งจะเริ่มต้นเข้าทำงานใหม่ หรือที่ทำงานมาสักระยะ คุณควรจัดระบบความคิดทั้งหมดใหม่ และให้ความสำคัญมากที่สุดกับสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆ ซึ่งก็คือการใช้ช่วงเวลาและเงินออมในช่วงที่ยังมีเรี่ยวมีแรงทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด</div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all">เวลาที่เหมาะสมที่สุดที่เราจะต้องเริ่มก็คือวันนี้และเดี๋ยวนี้<br /><br />แล้วเราควรจะบริหารเงินเดือนจากการทำงานปีแรกอย่างไรจึงจะถูกต้อง?</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all">สิ่งสำคัญพื้นฐานของการบริหารเงินที่หลายคนมักละเลย คือการ<b>จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย </b> โดยเราจะต้องจดสิ่งที่เราซื้อทุกอย่างลงไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนจนถึงวันที่ 7 และให้นับเป็น &quot;รอบที่ 1&quot; จนครบเดือนแล้วค่อยมาสรุปว่าเราใช้จ่ายไปมากน้อยเท่าไหร่ ใช้มากเกิน หรือยังพอเหลือเก็บ เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ คือให้คำนวณรายจ่ายตายตัวในแต่ละเดือนไปเลย เช่น ค่าเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงาน ค่าอาหารในแต่ละมื้อ ค่าซื้อของใช้จำเป็น นำมาหารเฉลี่ยรวมกันว่าภายในหนึ่งเดือนควรใช้เท่าไหร่</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all"><b>ทำปฏิทินหนี้สิน</b> หากต้องผ่อนชำระสินค้าต่าง ๆ อย่าลืมทำตารางกำหนดวันจ่ายค่างวด หรือดอกเบี้ยเอาไว้ด้วย โดยอาจจะจดไว้ที่ปฏิทิน บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ หรือจดเพิ่มเติมไว้ในสมุดบันทึกรายรับ-รายจ่ายด้วยเลยก็ได้ ช่วยกันลืม และกันเงินไว้จ่ายให้ตรงตามกำหนด เพื่อกันการเสียดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จําเป็นเพราะจ่ายไม่ตรงเวลานั่นเอง</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all"><b>เริ่มต้น &quot;ออมเงิน&quot;</b> หลักการบริหารเงินแบบง่าย ๆ ที่หลายคนทราบกันดี (แต่ทำไม่ค่อยจะได้) คือต้อง &quot;ออมก่อนใช้&quot; มีการบริหารเงินเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเงินออมไว้อย่างน้อย 10% ของรายได้ เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ให้กันเงินออมออกมาทันที 1,500 บาท ใครกลัวจะอดใจไม่ไหว พอเงินเดือนออกปุ๊บ แนะนำให้ตัดบัญชีอัตโนมัติเข้าบัญชีเงินฝากประจำไปเลย หรือใช้เทคนิคสำหรับหนุ่ม-สาวออฟฟิศป้ายแดงที่อดใจได้ยากยิ่ง คือออมเงินวันละ 20 บาท หยอดใส่กระปุกทุกวัน เมื่อครบหนึ่งเดือนก็นำไปฝากธนาคาร ภายในเวลาหนึ่งปีเราจะมีเงินเก็บ 7,200 บาท และหากเราออมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบ 15 ปี เราจะมีเงินเก็บเพิ่มเป็น 108,000 บาท</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all"><b>ทำให้เงิน &quot;งอกเงย&quot;</b> เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า &quot;ทำงานอย่างเดียว ไม่ลงทุน ไม่มีวันรวย&quot; กันบ้างไหม คนหนุ่ม-สาววัยเริ่มต้นทำงานจึงต้องเริ่มวางแผนให้เงินทำงานแทนให้เร็วที่สุด เพื่อต่อยอดจากเงินที่ออม โดยบริหารเงินส่วนหนึ่งมาใช้ในการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ หรือพันธบัตร เพื่อทำให้เงินงอกเงย ซึ่งก็คือดอกเบี้ย และเงินปันผล หากเพิ่งเริ่มลงทุนและไม่อยากเสี่ยงก็อาจเลือกเพียงฝากประจำปลอดภาษี กองทุนตลาดเงิน หรือซื้อพันธบัตรและสลากออมสิน หากเราผ่านจุดเสี่ยงน้อยมาแล้วอยากอัพสกิลก็ลองกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ หรือกองทุนทองคำ สุดท้ายเมื่อมีความชำนาญในเรื่องการลงทุนต่าง ๆ และต้องการให้เงินงอกเงยเยอะ ๆ (แต่ก็เสี่ยงสูงมาก) ต้องกระโดดไปเล่นหุ้น กองทุนรวมระยะยาว หรือกองทุนเปิดต่าง ๆ กับสถาบันทางการเงินที่เชื่อถือได้ เป็นต้น แต่อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้น ต้องศึกษารายละเอียดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และถี่ถ้วนที่สุด</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all"><b>วางแผนกับภาษี</b> มีรายได้มากขึ้น ภาระภาษีก็ย่อมสูงขึ้นด้วย การบริหารเงินโดยการวางแผนภาษีเป็นวิธีที่จะช่วยให้เราจ่ายภาษีน้อยลงได้ โดยเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจมีทั้งกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือประกันชีวิต เตรียมศึกษาข้อมูลให้ดี</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all"><b>บริหารเงินส่วนที่เหลือ</b> หนุ่ม-สาวออฟฟิศทั่วไปมักไปกิน ไปเที่ยว หรือไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าสนอง &quot;need&quot; กันทันทีที่เงินเดือนออก หรือตอนต้น ๆ เดือน แล้วพอปลายเดือนค่อยมานั่งซดมาม่าอย่างเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย วิธีบริหารเงินเดือนที่ถูกคือพอเงินเดือนออกปุ๊บให้เก็บเป็นเงินออมก่อน แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนก่อน แล้วเหลือเท่าไหร่ ตอนปลายเดือนค่อยเอาไว้กิน-เที่ยว-ชอปปิงเท่านั้น</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --></div><div class="mt-ar-text1"><center><a href="https://www.keptbykrungsri.com/Promotions/Promotions/saving-tips.html?utm_medium=banner&amp;utm_source=other&amp;utm_campaign=test_banner_a&amp;utm_term=test_banner_a" target="_blank"><img alt="แจก E-Book รวมสูงเก็บเงิน พร้อมวิธีบริหารเงิน ฟรี" class="img-fluid" src="/getmedia/24a330ce-a329-449e-af56-f0b1d6ad577d/kept-ebook-saving-tips-banner-a.jpg.aspx?resizemode=1" /></a></center></div></div>
ks-guru
3 Min Read
share