การลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกหนึ่งหนทางที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนระยะยาวได้ และนั่นเป็นสาเหตุให้การออมหุ้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนมืออาชีพที่ต้องการลงทุนท่ามกลางความผันผวนในปัจจุบัน มาทำความรู้จักกับการออมหุ้นและความแตกต่างจากกองทุนรวมหุ้น เพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด
 

การออมหุ้นคืออะไร

ออมหุ้น คือ การทยอยลงทุนในหุ้นอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียง หรือตรงกับความต้องการของผู้ลงทุน ปัจจุบันผู้คนสนใจในการออมหุ้นและการออมกองทุนมากขึ้นเนื่องจากมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินปกติ แต่ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
 

ประโยชน์ของการออมหุ้น

1. ฝึกวินัยการลงทุนของตัวเอง
   ดังที่อธิบายข้างต้นว่าการออมหุ้นเป็นการทยอยซื้อหุ้นหรือกองทุนอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้เองที่ช่วยฝึกวินัยในการลงทุนซึ่งต้องมีการวางแผนแบ่งรายได้ของตนเองบางส่วนเพื่อนำมาลงทุนในแต่ละเดือน ไม่นำเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจนเกินควร


2. มีโอกาสเก็บเงินก้อนได้ในระยะยาว
   การออมหุ้นคือการนำเงินไปลงทุนในหุ้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งท้ายสุดแล้วเงินลงทุนเหล่านั้นจะพอกพูนเป็นเงินก้อนใหญ่ในอนาคต ไม่นับว่าการลงทุนดังกล่าวมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลหรือส่วนต่างราคาที่จะช่วยให้การเก็บเงินของคุณคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

   

การออมหุ้นต่างจากกองทุนรวมหุ้นอย่างไร

คนจำนวนไม่น้อยที่เพิ่งเริ่มลงทุนมีความสับสนระหว่างการออมหุ้น และการซื้อกองทุนรวมหุ้นว่าน่าจะเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างมาก ดังนี้

• การออมหุ้น นักลงทุนที่ต้องการออมหุ้นจำเป็นจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการลงทุน สามารถเลือกหุ้นเองได้ รวมถึงมีเวลาติดตามตลาดเพื่อคัดสรรหุ้นและลงทุน แน่นอนว่าต้องรับความเสี่ยงที่สูงกว่าด้วย
• การออมกองทุนรวมหุ้น การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นจะมีมืออาชีพด้านการลงทุนคอยเลือกหุ้นเพื่อลงทุนให้ จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการเลือกหุ้นและติดตามสภาวะตลาดด้วยตัวเอง รวมถึงมีการใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยกว่า สามารถกระจายลงทุนในหุ้นหลายตัวได้แม้ว่าถือกองทุนเดียว ทำให้ความเสี่ยงที่ต้องเผชิญนั้นต่ำกว่าพอสมควร

   

เราจะสามารถออมหุ้นได้อย่างไร

1. ศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยง
   ก่อนการลงทุนทุกประเภทสิ่งแรกที่ต้องทำคือการศึกษาข้อมูลการลงทุนเหล่านั้นอย่างรอบคอบ ประกอบกับการประเมินความเสี่ยงที่คุณรับได้ เนื่องจากการลงทุนบางประเภทมีความผันผวนสูงอาจทำให้คุณขาดทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น
   
   สำหรับนักลงทุนท่านใดที่ต้องการประเมินความเสี่ยง สามารถทำแบบทดสอบประเมินตนเองเบื้องต้นได้ที่แบบทดสอบเพื่อประเมินความเสี่ยงในการลงทุน


2. วางแผนและตั้งเป้าหมายการลงทุน
   สำหรับเงินลงทุนเบื้องต้นขอแนะนำว่าควรอยู่ในระดับ 10%-30% ของรายได้ในแต่ละเดือนเพื่อให้การลงทุนเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้เงินลงทุนสามารถปรับเพิ่มลดได้ตามความสามารถในการออมของแต่ละคน


3. ดำเนินการเปิดพอร์ตลงทุน
   เปิดพอร์ตการซื้อขายหลักทรัพย์กับบลจ. ต่างๆ ที่มีการให้บริการ สำหรับการลงทุนในปัจจุบัน บลจ.ส่วนมากมีการสนับสนุนด้านการออมหุ้นด้วยการลงทุนในระบบอัตโนมัติ ช่วยให้การลงทุนของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก


4. ติดตามการลงทุนและออมหุ้นอย่างต่อเนื่อง
   สำหรับการลงทุนหุ้นนั้น ขอแนะนำว่าควรติดตามผลการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุก 6 เดือน หรือ 1 ปีโดยเฉพาะเมื่อตลาดผันผวน อาจต้องให้ความใส่ใจกับพอร์ตหุ้นของตนเอง เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

   

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มออมหุ้น

• มีเป้าหมายในการออม ทุกการลงทุนควรมีเป้าหมายเสมอ การออมหุ้นเองก็เช่นกัน หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการออมหุ้น ขอแนะนำว่าควรกำหนดเงินที่จะออม ผลตอบแทนที่คาดหวัง รวมถึงระยะเวลาการออม เพื่อให้สามารถวางแผนออมหุ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• อย่าออมหุ้นเพียงตัวเดียว การลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียวถือเป็นความเสี่ยงอย่างมากโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ค่อนข้างผันผวนในปัจจุบันที่อาจทำให้คุณขาดทุนหนักในระยะเวลาอันสั้น การเลือกหุ้น 2-3 ตัวขึ้นไปผสมทั้งความเสี่ยงต่ำและสูงอาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การลงทุนมากกว่า
• ศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากผู้ออมหุ้นจำเป็นต้องเลือกหุ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นการศึกษาหาความรู้และอัปเดตข้อมูลต่างๆ อยู่ตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

ข้อควรระวังสูงสุดของการออมหุ้นคือผู้ลงทุนจำเป็นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นๆ มากพอสมควร รวมถึงมีความวางใจที่จะซื้อหุ้นเหล่านั้นเก็บไว้เรื่อยๆ ไม่ว่าสถานการณ์จะมีความเปลี่ยนแปลงแบบไหน สำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนที่ยังรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า หลังจากมีความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นแล้วค่อยปรับเปลี่ยนการลงทุนเป็นรูปแบบอื่นก็ยังไม่สาย

สรุป
การออมหุ้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจสำหรับผู้ที่มีการศึกษาหุ้นมาแล้วในระยะเวลาหนึ่ง และต้องการลงทุนระยะยาว สำหรับนักลงทุนมือใหม่การลงทุนในกองทุนรวมอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกมากนัก และมีมืออาชีพด้านการลงทุนคอยดูแลให้

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจการลงทุน หรือกำลังลงทุนและอยากต่อยอดเงินของตนเองอย่างมีคุณภาพ สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับที่ บริการที่ปรึกษาทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรี

บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา