ถอดบทเรียนปี 2565 สู้มาทั้งปี มีอะไรให้เรียนรู้บ้างนะ
เพื่อชีวิตสบาย

ถอดบทเรียนปี 2565 สู้มาทั้งปี มีอะไรให้เรียนรู้บ้างนะ

icon-access-time Posted On 16 ธันวาคม 2565
By Krungsri The COACH
ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่หนักหน่วงไม่น้อย ทั้งสภาพเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงภัยธรรมชาติ แต่เราก็ฝ่าฟันผ่านกันมาได้ถึงสิ้นปี ลองมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และที่สำคัญเราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์เหล่านี้ ตามมาเลย

โควิดระบาดยืดเยื้อ

 
โควิดระบาดยืดเยื้อ

เราใช้ชีวิตร่วมกับการระบาดของไวรัสโควิดมานานทีเดียว หลายกิจกรรมต้องหยุดชะงัก บางธุรกิจไปต่อไม่ไหว หลายคนไม่มีงานทำ ขาดรายได้ ได้รับผลกระทบอย่างมาก และถึงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ยังไม่กลับมาคึกคักเหมือนแต่ก่อน

เรื่องนี้สอนเราว่า ในช่วงที่มีงาน มีรายได้ เราควรออมเงินให้มีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมไว้ใช้เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน


ปฏิเสธไม่ได้ว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน มีผลให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจลามไปในหลายภูมิภาคทั่วโลก สำหรับคนไทยแม้จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่เราทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้ข้าวของแพงขึ้นมาก เพราะต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้หลายคนที่ลงทุนในกองทุนรวมหรือหุ้น คงรับรู้ได้ถึงความผันผวนของตลาดทั้งในและต่างประเทศ อาจมีตัวแดงในพอร์ตกันพอสมควร

สิ่งที่เรียนรู้จากจากเหตุการณ์นี้คือ เราควรลดผลกระทบของความผันผวนด้วย “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า DCA (Dollar-cost averaging)” ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่ากันทุกเดือน โดยไม่สนใจว่าราคาจะขึ้นหรือลง วิธีนี้สามารถทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว
 

ที่สำคัญอีกเรื่อง คือ ปีหน้าฟ้าใหม่น่าจะถือโอกาสปรับกลยุทธ์การลงทุน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไปมาก และถ้าไม่มั่นใจว่าควรปรับอย่างไรบ้าง ที่กรุงศรีมีบริการที่ปรึกษาทางการเงิน Plan Your Money ที่พร้อมตอบทุกคำถามเรื่องการลงทุนแบบส่วนตัวเฉพาะคุณเลยนะ

ฝนตกหนัก ตกนานกว่าที่ผ่าน ๆ มา

 
ฝนตกหนัก ตกนานกว่าที่ผ่าน ๆ มา

หน้าฝนปีนี้ตกหนัก ตกนานกว่าที่เคย หลายพื้นที่มีน้ำท่วมจนไม่สามารถใช้รถใช้ถนนได้ หรือซ้ำร้ายน้ำท่วมบ้านจนต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น ปล่อยข้าวของเครื่องใช้ทิ้งไว้กับน้ำ หลังน้ำลดก็ต้องเผชิญกับสภาพบ้านที่ทรุดโทรม เฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเสียหาย หรือบ้านไหนถึงน้ำไม่ท่วมก็อาจเกิดปัญหาหลังคารั่วซึม ฝ้าถล่ม จากฝนที่ตกหนักติดต่อกันนาน ๆ ทำเอาเครียดได้เหมือนกัน

บทเรียนจากเรื่องนี้สอนเราว่า เราควรดูแลตรวจสอบสภาพบ้านให้พร้อมรับมือกับสภาพดินฟ้าอากาศเสมอ เช่น หลังคารั่วซึมหรือเปล่า สายไฟยังเป็นปกติดีหรือไม่ ตัดแต่งกิ่งหรือต้นไม้ที่เปราะเสี่ยงกับการหักโค่นลงมาเป็นอันตราย หรือถ้าบ้านเราน้ำท่วมเป็นประจำอยู่แล้ว อาจต้องมีแผนรับมือ เช่น ปรับปรุงพื้นที่ในบ้าน ยกของขึ้นสูง เพื่อรองรับน้ำท่วม

ปีนี้ใครเตรียมตัวไม่ทัน ต้องซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม หรืออยากรีโนเวทบ้านเพื่อเตรียมรับน้ำท่วมในปีต่อ ๆ ไป และกำลังมองหาเงินเพื่อมาจัดการเรื่องนี้ กรุงศรีขอแนะนำ “สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช” เพราะมีข้อดีเหมาะสำหรับคนที่มีที่อยู่อาศัย ได้ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย และอาคารพาณิชย์ เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ ดังนี้
  • ได้เงินกู้ก้อนใหญ่ วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 85% ของราคาประเมิน
  • หากไม่พร้อมกู้คนเดียว สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน)
  • ดอกเบี้ยต่ำสุด 4.50% ต่อปี นาน 3 ปี*
  • ผ่อนสบาย ภาระไม่หนักเกินไป กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 6,900 บาท*
  • ผ่อนยาว ๆ ได้ถึง 30 ปี

ปีนี้อาจเป็นปีที่เหนื่อยมากสำหรับเราหลายคน กรุงศรีขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีสำหรับทุกคน กรุงศรีเป็นกำลังใจให้เสมอ

หมายเหตุ:
  • การคำนวณรายได้, ภาระหนี้, การอนุมัติวงเงินสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร ต้องศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการสมัครใช้บริการ
  • ธนาคารไม่มีนโยบายเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับการอนุมัติสินเชื่อบุคคลจากลูกค้าแต่อย่างใด กรุณาอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างเรียกเก็บค่าดำเนินการดังกล่าว
*ตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 13 ธ.ค. 65 อัตราดอกเบี้ย MRR = 6.25% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยนี้สำหรับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 65 - 31 ธ.ค. 65 โดยจดจำนองและเบิกรับเงินกู้ภายในวันที่ 31 ม.ค. 66
  • ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เป็นไปตามประกาศของธนาคาร
pym logo