4 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเก็บเงินเป็น
เพื่อชีวิตสบาย

4 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเก็บเงินเป็น

icon-access-time Posted On 11 มีนาคม 2559
By Krungsri The COACH
คนที่เก็บเงินเป็น และรู้วิธีทำเงินให้เพิ่มพูน ไม่จำเป็นว่าต้องมีเงินเดือนเยอะ เพราะเงินเดือนเยอะ ยังไม่ดีเท่ากับมีเงินเหลือเก็บเยอะ เราอาจเคยเห็นบางคนได้เงินเดือนหลายหมื่นแต่พอหักค่าใช้จ่ายแล้วหมดพอดี ไม่มีเหลือเก็บหรือบางคนถึงขั้น “ติดลบ” ซึ่งแบบนี้ไม่โอเคแน่ ๆ
ลองมาเช็คตัวเองสักนิดว่าคุณเก็บเงินเป็นหรือไม่…

สัญญาณที่หนึ่ง “ภาวะเดือนชนเดือนเริ่มหมดไป”

การใช้เงินเดือนชนเดือนจัดเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงมาก และถ้าไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น นั่นหมายความว่านอกจากเราจะเก็บเงินไม่ได้แล้ว ยังอาจมีเงินไม่พอใช้จ่ายด้วย ถ้ากำลังเจอปัญหานี้อยู่ อยากให้หาเคล็ดลับการเก็บเงินแบบต่าง ๆ มาลองปรับใช้ เช่น เมื่อได้เงินมาให้หักเงินสัก 10% เป็นเงินเก็บไปเลย เมื่อทำแบบนี้ได้ทุกเดือน เราก็จะเริ่มมีเงินเก็บ แต่ถ้าเก็บเงินแบบฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา ก็กลัวจะเก็บไปถอนไป เก็บเงินไม่ได้สักที เราขอแนะนำบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน เป็นตัวช่วยสร้างวินัยให้เราเก็บเงินได้ถึงเป้าหมาย
  • ทยอยเก็บเงินยอดเท่า ๆ ทุกเดือน เริ่มต้นเพียงเดือนละ 500 บาท เมื่อครบ 24 เดือน เราก็จะมีเงินก้อน
  • รับดอกเบี้ยสูงถึง 2.35%* ต่อปี ดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี
  • ไม่ลืมฝากแน่นอน เพราะสามารถตั้งโอนเงินล่วงหน้าได้ผ่าน Krungsri app
  • เปิดบัญชีง่ายใช้แค่บัตรประชาชน ติดต่อที่ธนาคารกรุงศรี ทุกสาขา
เก็บเงินแบบนี้สามารถช่วยให้เรามีเงินก้อนโตและได้รับดอกเบี้ยสูง ใครเก็บเงินไม่อยู่แนะนำวิธีนี้เลย มีเงินเก็บแน่นอน

สัญญาณที่สอง “เริ่มมีเงินเก็บ”

ถ้าเราเริ่มฝากเงินจากสัญญาณแรกแล้ว เราก็จะมีเงินเก็บประมาณนึง จะน้อยหรือมากก็นับเป็นสัญญาณที่ดี การจะมีเงินเหลือเก็บได้สิ่งที่คัญคือ ต้องพยายามตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก เราอาจมีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยบ้างเพื่อมอบความสุขให้ตัวเองนานๆ ที แต่ต้องระวังไม่ควรใช้เยอะมากจนทำให้เราเกิดภาวะเดือนชนเดือนอีก ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาเราก็ต้องเริ่มต้นเพื่อเก็บเงินใหม่

สัญญาณที่สาม “เงินเก็บเริ่มพอกพูน”

การมีเงินเก็บมากขึ้น ตัวเลขในบัญชีดูดีขึ้น ใบแจ้งหนี้ที่ส่งมาที่บ้านลดลง มีตัวเลขหนี้สินน้อยลง คือสัญญาณที่ดีมาก ๆ ต่อจากนี้ก็แค่เตือนตัวเองไม่ให้ใช้เงินแบบไม่ระวัง หรือใช้เงินฟุ่มเฟือย และควรเริ่มศึกษามองหาหนทางต่อยอดเงินเก็บที่มีอยู่ให้งอกเงยขึ้น หรือที่เรียกว่าให้เงินทำงานแทนเรานั่นเอง

สัญญาณที่สี่ “ซื้อประกันเพื่อกระจายความเสี่ยง”

เพราะชีวิตนั้นไม่แน่นอน แม้ว่าวันนี้เราจะมีเงินเก็บแล้ว แต่หากวันใดเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือเกิดอุบัติเหตุ เราอาจต้องนำเงินก้อนนี้ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลจนหมดก็ได้ เราขอแนะนำตัวช่วยคุ้มครองคุ้มๆ อย่าง กรุงศรีประกันอุบัติเหตุตามใจ ที่มีข้อดีเพียบ…
  • ช่วยจ่ายค่ารักษาจากอุบัติเหตุ สูงสุด 100,000 บาท/ครั้ง
  • วงเงินค่ารักษาพยาบาลตามความคุ้มครองหลัก มี 3 แผน ให้เลือกได้ตามใจ
  • คุ้มครองอุบัติเหตุ สูงสุด 1,000,000 บาท
  • เลือกซื้อความคุ้มครองพิเศษเพิ่มได้ ทั้งความคุ้มครองอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์ ชดเชยรายได้ขณะรักษาตัวในรพ. ชดเชยภาระหนี้
  • ราคาเบาๆ ค่าเบี้ยเริ่มต้นไม่ถึง 7 บาท/วัน** ซื้อปุ๊บ คุ้มครองทันที
  • จ่ายค่าเบี้ยปีต่อปี ไม่มีภาระผูกพันยาวๆ
  • ซื้อง่ายใช้แค่บัตรประชาชน ติดต่อที่ธนาคารกรุงศรี ทุกสาขา
เป็นอย่างไรบ้างกับข้อมูลดี ๆ ที่รวบรวมมาให้ในวันนี้ หวังว่า 4 สัญญาณเหล่านี้จะช่วยเป็นเช็คลิสต์ให้เราก้าวไปสู่เป้าหมายการเก็บเงินเพื่อให้เรามีเงินเก็บที่เพิ่มมากขึ้นนะ
*ตามประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566
**สำหรับแผน 1 อายุ 20-60 ปี ค่าเบี้ยเริ่มต้น 2,480 บาท/ปี
หมายเหตุ:
  • รับประกันภัยโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
  • ลูกค้าควรทําความเข้าใจในเงื่อนไขของความคุ้มครองของแบบประกันภัยก่อนตัดสินใจสมัครทําประกันภัย
  • ความคุ้มครอง ข้อยกเว้น และสิทธิประโยชน์เป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัย
  • ในกรณีมีข้อพิพาทคำตัดสินของธนาคารถือเป็นสิ้นสุด

บทความโดย
ปริตา ธิติปรีชาพล
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
pym logo