คนแต่ละวัยมีความแตกต่างเฉพาะตัว ความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อมุมมอง ทัศนคติ และวิถีชีวิต เพราะฉะนั้นจึงมีการแบ่งกลุ่มคนออกเป็นตามแต่ละ Generation เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ โดย Gen Y ช่วงอายุราว ๆ 25-40 ปี เติบโตมากับเทคโนโลยีหรือดิจิทัล นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มคนที่กระตือรือร้นและเปิดรับทั้งวัฒนธรรมและเพื่อนใหม่ ๆ

Gen Y เป็นกลุ่มคนที่ให้คุณค่ากับเสรีภาพในที่ทำงานอย่างสูง ขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นและอยากให้มีความสมดุลในชีวิตมากที่สุด เลยทำให้ Gen Y จะต้องใช้เทคนิค กระบวนการเลือกที่ดี เพื่อให้ตอบโจทย์ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Gen Y เมื่อเริ่มทำงานใหม่ ๆ ก็จะเริ่มมีเงินและเริ่มอยากใช้ชีวิต หลายคนกำลังคิดว่าจะเอาเงินไปทำอะไรดี? หรือมีความคิด “อยากจะมีบ้าน” และมีแนวคิดว่า “ซื้อคอนโด หรือบ้านดีกว่ากัน” ในช่วงปีแรก ๆ ของการทำงานบางคนอาจยังอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ แต่พอเริ่มโตขึ้นก็อยากที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ก็ออกมาอยู่คอนโด ซึ่งช่วงแรกอาจจะเช่าอยู่ แต่พออยู่ไปสักพักก็จะเริ่มมีความคิดว่าเอ๊ะ! แล้วเราจะเช่าคอนโดอยู่ไปอีกนานแค่ไหน ทำเลแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรานะ?

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงรู้แล้วใช่ไหมว่าบ้านหรือคอนโด อันไหนที่ตอบโจทย์มากกว่ากัน แต่ถ้าอยากฟังคลิปอธิบายแบบเต็ม ขอแนะนำ Krungsri The COACH Ep.35 Gen Y มีบ้านหรือคอนโดของตัวเองได้รึยัง? คลิกเลย


ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับคน Gen Y ที่กำลังอยากมีบ้าน การเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดก็ต้องมีเทคนิคในการเลือกซื้อเพื่อที่จะได้สิ่งที่ดีที่สุด มาดูในส่วนของเทคนิคการเลือกซื้อคอนโดหรือบ้านเพื่อ Gen Y ไปพร้อมกันเลย

1. ทำเลที่เหมาะสมคือคีย์สำคัญ

เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ใช้เงินค่อนข้างมาก จึงต้องใช้แนวทางเพื่อพิจารณาผลกระทบและความเป็นไปได้ในระยะยาว ให้มองภาพรวมอย่างละเอียดของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ และนำไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อหามูลค่าเพิ่มในอนาคตจากการลงทุนครั้งเดียว
 

2. ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์ทุกสไตล์

นอกจากทำเลแล้ว ดีไซน์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของ Gen Y ไม่แพ้กัน ต้องดึงดูดสายตา มีบุคลิกเฉพาะตัว และเข้ากับทุกสไตล์ เมื่อพิจารณาถึงขอบเขตและลักษณะการใช้งานของการตกแต่งภายในที่หลากหลาย เช่น ความประณีต ดูแพง และโดดเด่น อาจสรุปถึงสไตล์ของเจ้าของห้องที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์และพื้นที่ที่อาจใช้งานได้หลากหลายตามสถานการณ์
 

3. ความปลอดภัยและการรักษาความสะอาด

ระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตราฐานยังมีความจำเป็นในการซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับ Gen Y รวมไปถึงความสะอาดที่ดีเยี่ยม ในกรณีที่ต้องการปล่อยเช่าที่ขายต่อก็จะสามารถเรียกราคาได้ดี เนื่องจากคอนโดมิเนียมมีมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างดีเยี่ยม
 

4. มีส่วนกลางที่ดี

ทำเลส่วนกลางของโครงการ คือ ข้อพิจารณาอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียม เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ สนามฟุตบอล ลู่วิ่งและปั่นจักรยาน เป็นต้น

พื้นที่ส่วนกลางอาจถูกมองว่าเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับคนรักสุขภาพ นอกเหนือจากโครงการที่โดดเด่นเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าในขณะที่วิเคราะห์และใช้เทคนิคเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่เหมาะกับความต้องการของ Gen Y ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งส่วนของผู้ขายหรือนักลงทุนแล้ว ยังโดนใจผู้ซื้อด้วย
 
เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะซื้อคอนโดที่ไหนสิ่งที่เราต้องวางแผนคือเรื่องสินเชื่อ ทั้งนี้ก่อนที่จะขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยต้องมีการวางแผนการเงินระยะยาว เนื่องจากระยะเวลาของการผ่อนชำระค่อนข้างยาว เช่น 15 หรือ 30 ปีเลยทีเดียว สินเชื่อธนาคารไหนดี ? หรือตอบโจทย์ อย่างสินเชื่อคอนโดของทางธนาคารกรุงศรีก็มีให้บริการเช่นกันโดยมีจุดเด่นดังนี้

• วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
• พิเศษฟรี!! ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน

สามารถดูรายละเอียดสินเชื่อบ้านกรุงศรีเพิ่มเติมที่ www.krungsri.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572
 

ถ้าไม่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเพราะอยู่กับครอบครัวก็สบายดีอยู่แล้ว ควรที่จะซื้อรึเปล่า?

มีอีกตัวเลือกหนึ่งก็คือซื้อและปล่อยเช่า หัวใจของการซื้อและปล่อยเช่าคือการให้ผู้เช่าช่วยผ่อนชำระสินเชื่อแทน เช่น หากเราต้องผ่อนชำระ เดือนละ 20,000 บาท และเรามีผู้เช่าโดยชำระค่าเช่าเดือนละ 17,000 บาท และเราจ่ายเพิ่มเพียงแค่ 3,000 บาท ให้อนาคตข้างหน้าก็จะมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง

และบางทีคอนโดในเมืองอาจจะไม่ได้เหมาะกับแค่ Gen Y เท่านั้นก็ได้แต่อาจจะเหมาะกับวัยอื่น ๆ ด้วย เลือกที่อยู่อาศัยที่ใกล้สวนสาธารณะ เดินทางสะดวก และชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ศูนย์การค้า ฟิตเนส และโรงพยาบาล ท้ายที่สุดถ้าไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วอยากที่จะอัปเกรด ก็สามารถขายได้ในราคาที่ดีและเหมาะสม เพราะอสังหาริมทรัพย์มีราคาที่สูงกว่าที่ซื้อมาอีกด้วย