เทคนิคเลือกประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีตามวัย ให้คุ้มคูณ 2
รอบรู้เรื่องภาษี

เทคนิคเลือกประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีตามวัย ให้คุ้มคูณ 2

icon-access-time common.posted.on 28 ตุลาคม 2567
นับตั้งแต่ช่วงหลังโควิดเป็นต้นมา ความสนใจในการทำประกันก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ จากการตระหนักถึงความไม่แน่นอนในชีวิตและสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี จึงทำให้การทำประกันถือเป็นการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพ เพราะให้ผลประโยชน์กับเราถึง 2 ต่อ ได้ทั้งเรื่องของความคุ้มครองและการลดหย่อนภาษีไปพร้อม ๆ กัน

วันนี้ Krungsri The COACH จะมาแนะนำ แผนการทำประกันแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับคนในแต่ละวัย รวมถึงทำความเข้าใจ เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิต เพื่อให้ทุกคนได้รับความคุ้มค่าจากการทำประกันให้ได้มากที่สุด
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีด้วยประกันแบบต่าง ๆ

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีด้วยประกันแบบต่าง ๆ

ปัจจุบัน กรมสรรพากรกำหนดให้เราสามารถได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันที่จ่ายไป ทั้งประกันที่เราทำให้ตัวเอง และรวมถึงประกันที่ทำให้คนในครอบครัวหรือคนอื่นด้วย ซึ่งแต่ละอย่างก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนี้
 

เบี้ยประกันของตัวเอง

สิทธิ์ลดหย่อนภาษีของเบี้ยประกันที่เราทำให้ตัวเอง จะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้จากทั้งเบี้ยประกันชีวิต และเบี้ยประกันสุขภาพ โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
 
  • เบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป
    ประกันชีวิตแบบทั่วไป ได้แก่ ประกันแบบตลอดชีพ ประกันแบบชั่วระยะเวลา และประกันแบบสะสมทรัพย์ รวมถึงประกันแบบควบการลงทุน (Unit Linked) โดยมีเงื่อนไขว่า
    • ลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
    • สำหรับแบบประกันควบการลงทุน เบี้ยที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ จะลดหย่อนได้เฉพาะเบี้ยส่วนที่นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำประกันเท่านั้น
    • แบบประกันชีวิตที่ทำจะต้องมีสัญญาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป / ต้องเป็นแบบประกันในไทย / หากมีเงินคืน ต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันในแต่ละปี หรือเป็นแบบที่ทางบริษัทประกันแจ้งว่าสามารถลดหย่อนภาษีได้เท่านั้น
  • เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
    • ลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และต้องไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และหากรวมกับเงินที่ลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ + กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ + SSF + RMF ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
    • หากในโควต้าประกันชีวิตแบบทั่วไป ยังใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไม่ถึง 100,000 บาทเต็ม สามารถใช้เบี้ยของประกันชีวิตแบบบำนาญลดหย่อนเพิ่มจนกว่าจะเต็มโควต้า 100,000 บาทต่อปี
    • เงื่อนไขของรูปแบบประกัน เช่นเดียวกับประกันชีวิตแบบทั่วไป
  • เบี้ยประกันสุขภาพ
    • ลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป จะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
    • จะต้องเป็นประกันสุขภาพที่คุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย หรือจากอุบัติเหตุ / กรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ / โรคร้ายแรง / การดูแลระยะยาวเท่านั้น (ไม่รวมความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน)

เบี้ยประกันที่จ่ายให้คนในครอบครัว

เบี้ยประกันที่จ่ายให้คนในครอบครัวสามารถนำไปลดหย่อนภาษีให้ตัวเองได้ เฉพาะเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายให้คู่สมรส และเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายให้พ่อแม่ของเรา หรือพ่อแม่ของคู่สมรสเท่านั้น (เบี้ยประกันที่จ่ายให้บุตรไม่สามารถนำไปลดหย่อนได้) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
 

เบี้ยประกันชีวิตให้คู่สมรส

  • ลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี
  • คู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
  • ต้องเป็นคู่สมรสที่มีการจดทะเบียนสมรส เป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป (เพิ่งแต่งงานภายในปีนี้จะยังไม่สามารถลดหย่อนได้)
  • เงื่อนไขของรูปแบบประกัน เช่นเดียวกับประกันชีวิตแบบทั่วไป
 

เบี้ยประกันสุขภาพให้พ่อแม่

  • ลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง รวมกันทั้งพ่อและแม่ สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
  • หากพี่น้องร่วมกันจ่ายเบี้ย จะใช้สิทธิ์ได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท หารด้วยจำนวนพี่น้องทุกคนที่จ่ายเบี้ย ให้ลดหย่อนได้คนละเท่า ๆ กัน
  • ตัวเราหรือพ่อแม่ ต้องอยู่ในไทย อย่างน้อย 180 วันในปีภาษีนั้น
  • เงื่อนไขของรูปแบบประกัน เช่นเดียวกับประกันสุขภาพของตนเอง
  • พ่อหรือแม่จะต้องมีเงินได้ทั้งปีไม่เกิน 30,000 บาท แต่หากเป็นพ่อแม่ของคู่สมรส คู่สมรสจะต้องไม่มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีด้วย
 
เคล็ดลับเลือกประกันให้เหมาะกับช่วงวัย

Krungsri The COACH แนะนำเคล็ดลับเลือกประกันให้เหมาะกับช่วงวัย ได้ประโยชน์ 2 เด้ง

ด้วยความที่คนในแต่ละวัยอาจมีรายได้ เป้าหมายการเงิน หรือภาระการเงินที่แตกต่างกัน จึงต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงวัย รวมถึงจุดเด่นของประกันแต่ละประเภท โดย Krungsri The COACH ได้สรุปแบบประกันที่น่าจะเหมาะสำหรับคนแต่ละช่วงวัยไว้ให้แล้ว ดังต่อไปนี้
 

1. ช่วงวัยเริ่มทำงาน (21-30 ปี)

คนวัยนี้โดยทั่วไปอาจจะยังมีภาระการเงินไม่มาก เช่น อาจจะยังไม่มีบุตร หรือหนี้ก้อนใหญ่อย่างหนี้บ้าน รายได้อาจจะยังไม่สูงมากนัก จึงควรให้ความสำคัญกับการออมเงิน เพื่อสะสมความมั่งคั่งไปพร้อม ๆ กับการดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นหลัก แบบประกันที่เหมาะสมสำหรับช่วงวัยนี้ จึงควรเป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพื่อช่วยสร้างวินัยการออมระยะยาวตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงประกันสุขภาพ ที่ควรทำไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะสุขภาพยังปกติอยู่ จะสามารถเลือกความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทุกโรคไปในระยะยาวได้

ตัวอย่างแบบประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์และประกันสุขภาพที่แนะนำจากทางกรุงศรี
  • กรุงศรีประกันสะสมทรัพย์ กู๊ด เซฟวิ่ง 15/5 (+) ประกันสะสมทรัพย์ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ ผู้ทำประกันสามารถรับเงินคืนปีละ 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 - 14 พร้อมรับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา 500% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และมีโอกาสรับเงินปันผลตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 - 15 และเมื่อครบกำหนดสัญญา สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพใด ๆ

    ศึกษาข้อมูลแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่ กรุงศรีประกันสะสมทรัพย์ กู๊ด เซฟวิ่ง 15/5 (+)

  • กรุงศรีประกันสุขภาพ ตามใจ พลัส ประกันสุขภาพที่เน้นคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโดยให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายค่ารักษาตามวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่มีให้เลือกตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท

    ศึกษาข้อมูลแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และ ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง
 

2. ช่วงวัยสร้างครอบครัว (31-45 ปี)

เป็นช่วงวัยที่เริ่มมีฐานะและรายได้ที่สูงขึ้น พร้อมกับภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นไปด้วย ทั้งค่าเลี้ยงดูคนในครอบครัว ภาระค่าบ้านและค่ารถ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำให้เป็นวัยที่ต้องเน้นคุ้มครองความเสี่ยงด้านภาระการเงิน หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเป็นหลัก แผนประกันที่เหมาะกับคนในวัยนี้ จึงควรเป็นประกันชีวิตแบบที่เน้นความคุ้มครองชีวิต ได้แก่ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันแบบชั่วระยะเวลา หรือประกันควบการลงทุน (Unit Linked) ที่เน้นความคุ้มครองไปพร้อม ๆ กับการออมเงิน โดยเน้นไปที่การทำประกันชีวิตแบบความคุ้มครองสูง รวมไปถึงการทำประกันสุขภาพให้ตัวเองและคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างแบบประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่แนะนำจากทางกรุงศรี
  • กรุงศรีประกันตลอดชีพ มรดกเพิ่มทรัพย์ 90/5, 90/10 ที่มีจุดเด่นอยู่ที่สามารถเลือกระยะเวลาจ่ายเบี้ยสั้นยาวได้ตามความต้องการ โดยสามารถชำระเบี้ยประกันต่ำและได้ความคุ้มครองสูง และรับความคุ้มครองเพิ่มเติมอีก 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หากเสียชีวิตจากกรณีอุบัติเหตุ สูงสุด 30 ล้านบาทต่อราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุและอาชีพ (กรณีซื้อจำนวนเงินเอาประกันภัยน้อยกว่า 10 ล้านบาท)

    ศึกษาข้อมูลแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่ กรุงศรีประกันตลอดชีพ มรดกเพิ่มทรัพย์ 90/5, 90/10
 

3. ช่วงวัยก่อนเกษียณ (45 ปีขึ้นไป)

เป็นช่วงวัยที่ภาระการเงินเริ่มลดลง ด้วยอายุบุตรที่โตขึ้นจนถึงเรียนจบ รวมถึงภาระหนี้ที่เบาบางลง จึงควรเน้นไปที่การเตรียมเงินเพื่อการเกษียณอายุเป็นหลัก แผนประกันที่เหมาะสมจึงแนะนำเป็นประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่จะช่วยการันตีเงินบำนาญที่จะได้รับทุก ๆ ปี ไปตลอดหลังเกษียณ ช่วยให้อุ่นใจจากการมีรายได้ที่แน่นอนหลังเกษียณได้

ตัวอย่างแบบประกันชีวิตแบบบำนาญที่แนะนำจากทางกรุงศรี
  • กรุงศรีประกันบํานาญ แฮปปี้ รีไทร์ และกรุงศรี ประกันบำนาญ แฮปปี้ ไลฟ์ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่สามารถเลือกระยะเวลาจ่ายเบี้ยได้ตามความต้องการ ตั้งแต่แบบ 1 ปี, 5 ปี, 10 ปี หรือจ่ายจนถึงเกษียณ (อายุ 60 ปี) พร้อมรับเงินบำนาญการันตีเป็นขั้นบันไดตั้งแต่ 15% - 30% (สำหรับพื้นที่กรุงเทพ) ของจำนวนเงินเอาประกัน ตั้งแต่อายุ 60-85 ปี

    ศึกษาข้อมูลแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่ ประกันชีวิตแบบบำนาญ

หากอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ประกันแบบไหน จะเป็นแบบใช่สำหรับเรา ก็สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ประกันแบบไหน...ใช่สำหรับเรา? : Krungsri The COACH EP.10

สิ่งที่ควรให้ความสำคัญในการทำประกันและการลดหย่อนภาษี

แม้การทำประกันชีวิตประเภทไหน ๆ หรือประกันสุขภาพ จะสามารถนำค่าเบี้ยไปลดหย่อนภาษีได้เหมือนกันหมด แต่เพื่อเป็นการทำประกันให้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด เราจึงไม่ควรตั้งต้นจากเป้าหมายการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี แล้วไปซื้อประกันแบบใดแบบหนึ่งโดยขาดการวางแผนที่รอบคอบ เพราะเราอาจจะได้แบบประกันที่ไม่เหมาะสมกับความจำเป็นของชีวิตของเรา ดังนั้น เราควรยึดหลักคิดของการวางแผนทำประกันให้เหมาะสมกับชีวิตของเราไว้ก่อน แล้วจึงค่อยมาดูว่า แผนประกันดังกล่าว จะช่วยลดหย่อนภาษีให้เราได้เท่าไร จึงจะเหมาะสมที่สุดมากกว่า
 
ประกันสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้

สรุป

การทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยลดหย่อนภาษีให้เราได้ อย่างไรก็ตาม เราควรมองเรื่องของการลดหย่อนภาษีเป็นผลประโยชน์เสริม โดยไม่ลืมประโยชน์ที่แท้จริงของการทำประกันเพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ ในชีวิต ดังนั้น หากจะมองหาประกันเพื่อช่วยลดหย่อนภาษี ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการวางแผนการทำประกันอย่างถูกต้อง เพื่อให้เราได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันเอาไว้ด้วย
 
เทคนิคเลือกประกันให้คุ้มคูณ 2


อ้างอิง
รอบรู้เรื่องลงทุน

โอกาสลงทุน อินโดนีเซีย ดาวรุ่งเศรษฐกิจใหม่ ยักษ์ใหญ่แห่งอาเซียน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ อินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเนื้อหอมจากนักลงทุนทั่วโลก ใคร ๆ ก็เห็นโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาทำธุรกิจที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนตร์ชื่อดัง อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และยังมีอีกหลาย ๆ บริษัทที่เตรียมพร้อมลงทุนอีกนับไม่ถ้วน ทำให้ประเทศอินโดนีเซียได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่แห่งอาเซียน ความน่าสนใจของประเทศนี้มีอยู่มากและเราก็ต้องไม่พลาดที่จะมองหาโอกาสในการลงทุนกับประเทศนี้ ว่าแต่อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียมีความน่าสนใจ และเราควรจะเข้ามาลงทุนกันหรือไม่ Krungsri The COACH จะพาทุกคนไปหาคำตอบด้วยกัน <div class="ar-category"> <div class="accordion" id="ar-drop"> <div class="row"> <div class="col-12"> <div id="ar-category"> <div class="card bg-transparent"> <div aria-expanded="false" class="card-header arrow active collapsed" data-bs-target="#collapse-26012" data-bs-toggle="collapse" id="heading26012"> <h3><button class="btn btn-link btn-ar-drop" type="button">เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ</button></h3> </div> <div class="collapse" data-parent="#ar-drop" id="collapse-26012" style=""> <div class="card-body"> <ul class="ar-ul"> <li><a href="#title-1">6 ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศน่าลงทุน</a></li> <li><a href="#title-2">ก่อนลงทุน มารู้จักความเสี่ยงในประเทศอินโดนีเซียกันสักนิด</a></li> <li><a href="#title-3">อยากลงทุนให้เติบโตไปกับเศรษฐกิจอินโดนีเซียต้องทำอย่างไร</a></li> </ul> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>6 ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศน่าลงทุน</h2> </div> มาดูกันว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจอินโดนีเซียมีความเนื้อหอม ใคร ๆ ก็อยากจะเข้ามาลงทุน Krungsri The COACH ได้สรุปมาเป็น 6 ข้อ ดังนี้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. เศรษฐกิจอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน</strong></span></h3> มาดูข้อมูลกันสักนิด จากข้อมูลของทางศูนย์วิจัยกรุงศรี พบว่าปัจจุบันอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และมีแนวโน้มอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปีโดยเฉลี่ย<br /> <br /> จากการเติบโตของ GDP ทำให้เห็นว่า<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/indonesia-economic-outlook-update" target="_blank">เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย</a>มีขนาดใหญ่และมีโอกาสเติบโตมากขึ้นอีกด้วย เมื่อเศรษฐกิจดีก็จะทำให้คนมีเงินมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้น ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ที่ลงทุนในอินโดนีเซียสามารถขยายกิจการให้เติบโตต่อได้ ส่งผลต่อนักลงทุนอย่างพวกเราที่จะสร้างความมั่งคั่งได้มากขึ้นเช่นกัน<br /> &nbsp; <h4><strong>มีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นทุกปี</strong></h4> รู้ไหมว่า ปัจจุบันอินโดนีเซียมีจำนวนประชากรใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก โดยมีประชากรประมาณ 279 ล้านคน มีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปีละ 2.73 ล้านคนต่อปี ในระหว่างปี 2020 - 2060<br /> <br /> แน่นอนว่าเมื่อประเทศอินโดนีเซียจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เกิดความต้องการในการซื้อสินค้าและบริการมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะสินค้าพื้นฐาน เช่น สินค้าที่เป็นปัจจัย 4 และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ส่งผลให้บริษัทเติบโตขึ้นได้จากความต้องการที่มากขึ้นอีกด้วย<br /> &nbsp; <center><img alt="จำนวนประชากรของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นทุกปี" class="img-fluid" src="/getmedia/6e82863b-a1c2-49e0-b48f-767b9acf2364/indonesia-rising-star-asean-image01.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /><br /> ที่มา : worldpopulationreview.com ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2567</center> &nbsp; <h4><strong>การผ่อนคลายกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุนของนักลงทุน</strong></h4> หนึ่งใน Mega Project ของรัฐบาลอินโดนีเซีย คือ การสร้างเมืองหลวงใหม่ที่ชื่อว่า นูซันตารา ซึ่งเป็นแผนลดความแออัดของกรุงจาการ์ตา จากข้อมูลของ ThaiPublica (23 October 2022) ทางรัฐบาลอินโดนีเซียจะมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุนและธุรกิจต่าง ๆ ที่จะเข้ามาช่วยกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองแห่งนี้ ได้แก่ <ol> <li>สิทธิประโยชน์ทางภาษี 30 ปี สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่มูลค่ามากกว่า 645,000 ดอลลาร์สหรัฐ</li> <li>สิทธิประโยชน์ทางภาษี 20 ปี สำหรับการลงทุนห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวก</li> <li>ประโยชน์จูงใจอื่น ๆ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ</li> </ol> <br /> การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีนี้จะทำให้นักลงทุนเห็นว่าการลงทุนในอินโดนีเซียสามารถประหยัดต้นทุนทางการเงินและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมาก หากมาลงทุนในระยะยาวและรัฐบาลสามารถผลักดันโครงการนี้ให้เป็นไปตามแผนได้ก็ย่อมทำให้ธุรกิจที่เข้ามาร่วมโครงการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด<br /> &nbsp; <h4><strong>การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน</strong></h4> อินโดนีเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดี Joko Widodo ได้มีแผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งแผนนี้เรียกว่า National Strategic Project ที่รับผิดชอบโดย Committee for Acceleration of Priority Infrastructure (KPPIP) แน่นอนว่าโครงการนี้เป็นอีกหนึ่ง Mega Project ที่มีความสำคัญต่ออินโดนีเซียเป็นอย่างมาก<br /> <br /> โครงการนี้มีการแบ่งการพัฒนาเป็น 15 กลุ่ม เช่น การพัฒนาถนน ยกระดับการคมนาคม สร้างไฟฟ้าและพลังงาน โทรคมนาคม เขื่อน รถไฟ เทคโนโลยี เป็นต้น รวมถึงการพัฒนา 2 โปรแกรมในโครงการไฟฟ้าและอุตสาหกรรมอากาศยานไปตามพื้นที่เกาะต่าง ๆ ของประเทศอินโดนีเซีย โครงการเหล่านี้เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้เศรษฐกิจอินโดนีเซียพัฒนาขึ้นในระยะยาวอีกด้วย<br /> &nbsp; <center><img alt="อินโดนีเซียมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ" class="img-fluid" src="/getmedia/17f8ba4c-cc77-4e21-8b20-eae4554f19f2/indonesia-rising-star-asean-image02.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /><br /> ที่มา : kppip.go.id ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2560</center> &nbsp; <h4><strong>การสนับสนุนสตาร์ตอัป</strong></h4> รัฐบาลอินโดนีเซียได้ให้ความสำคัญในการสร้างธุรกิจสตาร์ตอัป เพราะเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ช่วยในการขับเคลื่อนในการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียก็เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก โดยได้ตั้งหน่วยงานดูแลสตาร์ตอัป 3 แห่ง ได้แก่ <ul> <li>Ministry of Cooperatives and SMEs เป็นกระทรวงที่ดูแลธุรกิจสตาร์ตอัปและ SMEs โดยเฉพาะ</li> <li>Creative Economy Agency หรือหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่สร้าง Ecosystem ในการพัฒนาสตาร์ตอัป ที่รวมผู้สนับสนุนทุกภาคส่วน</li> <li>Indonesia Investment Coordinating Board เป็นหน่วยงานที่คอยเชื่อมโยงระหว่างสตาร์ตอัปและนักลงทุน</li> </ul> <br /> จะเห็นได้ว่าความสำเร็จของสตาร์ตอัปสัญชาติอินโดนีเซียมีให้เห็นอยู่มากมาย โดยเฉพาะแอปท่องเที่ยวอย่าง Traveloka ก็เป็นแอปที่คนไทยนิยมและคุ้นเคยเป็นอย่างดี และยังมีสตาร์ตอัปอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น Super App, E-Commerce, บริการชำระเงิน และบริการทางการเงิน ซึ่งช่วยในการผลักดันเศรษฐกิจอินโดนีเซียให้เติบโตมากยิ่งขึ้น<br /> &nbsp; <h4><strong>ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์</strong></h4> อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย อย่างเช่น นิกเกิล เป็นแร่ที่มีความสำคัญต่อ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/indonesia-economic-outlook-update" target="_blank">เศรษฐกิจอินโดนีเซีย</a> Nasdaq พบว่าประเทศอินโดนีเซียสามารถผลิตแร่นิกเกิลได้เป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2022 ด้วยปริมาณ 1.8 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 51% ของการผลิตทั่วโลกเลยทีเดียว<br /> <br /> อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า แร่นิกเกิลก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ที่กำลังอยู่ในเทรนด์การพัฒนา เพราะทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เมื่อคนหันมาใช้รถ EV มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ความต้องการของแร่นิกเกิลเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน และอินโดนีเซียก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้ในระยะยาว<br /> &nbsp; <center><img alt="โอกาสลงทุน อินโดนีเซีย ยักษ์ใหญ่แห่งอาเซียน" class="img-fluid" src="/getmedia/3815a053-925c-47d4-b0f0-dda46d300a79/indonesia-rising-star-asean-image03.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-2"> <h2>ก่อนลงทุน มารู้จักความเสี่ยงในประเทศอินโดนีเซียกันสักนิด</h2> </div> อย่างไรก็ตามการลงทุนในอินโดนีเซียนั้นก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย โดยจะต้องพิจารณาและลงทุนอย่างระมัดระวัง ดังนี้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ภัยธรรมชาติ</strong></span></h3> เนื่องจากประเทศอินโดนีเซียเป็นเกาะและยังมีภูเขาไฟอยู่มาก ทำให้ยังต้องระมัดระวังความเสี่ยงของภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า น้ำท่วม ตลอดจนภูเขาไฟระเบิด<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ความเชื่อและวัฒนธรรม</strong></span></h3> เนื่องจากอินโดนีเซียมีภูมิประเทศเป็นเกาะและมีชาติพันธุ์ที่แตกต่างกันอยู่มากมาย การเดินทางหรือไปทำธุรกิจในต่างถิ่นนั้นจึงมีความแตกต่างด้านความเชื่อ ศาสนา และเชื้อชาติ ที่จะต้องระมัดระวัง <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-3"> <h2>อยากลงทุนให้เติบโตไปกับเศรษฐกิจอินโดนีเซียต้องทำอย่างไร</h2> </div> อย่าลืมว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียนั้นกำลังเป็นที่น่าจับตาและพลาดไม่ได้ในการลงทุน ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมที่เน้นกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนหุ้นในกลุ่มประเทศเอเชีย และตลาด Emerging Market ได้ดังนี้<br /> <br /> <strong>กองทุนรวม <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/asia/kfhasia" target="_blank">KFHASIA</a></strong> (ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวน 28 มิถุนายน 2567) <ul> <li>จุดเด่น : เป็นกองทุนที่เน้นกระจายลงทุนในตราสารทุนในกลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้น ญี่ปุ่น</li> <li>นโยบายการลงทุน : เป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Baillie Gifford Pacific Fund (Class B Acc) โดยกองทุนมุ่งหวังให้ได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด</li> <li>สัดส่วนการลงทุน : ลงทุนในจีน 35.20% อินเดีย 21.20% เกาหลีใต้ 15.30% ไตัหวัน 13.90% เวียดนาม 7.4%</li> <li>ความเสี่ยง : เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง (ระดับ 6)</li> <li>เหมาะกับ : นักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง</li> </ul> <br /> <strong>กองทุนรวม <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/asia/kkp-emxcn-h" target="_blank">KKP EMXCN-H</a></strong> (ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวน 28 มิถุนายน 2567) <ul> <li>จุดเด่น : เป็นกองทุนที่เน้นกระจายลงทุนในตราสารทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ยกเว้น จีน</li> <li>นโยบายการลงทุน : เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนต่างประเทศ คือ iShares MSCI Emerging Markets ex China ETF (กองทุนหลัก) โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก (Passive Fund)</li> <li>สัดส่วนการลงทุน : Taiwan Semiconductor Manufacturing 12.97% Samsung Electronics Ltd 5% Reliance Industries Ltd 2.02%</li> <li>ความเสี่ยง : เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง (ระดับ 6)</li> <li>เหมาะกับ : นักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง</li> </ul> <br /> แม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอินโดนีเซียมีความน่าสนใจต่อนักลงทุนและนักธุรกิจทั่วโลก แต่ Krungsri The COACH มองว่า สำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างเรา ๆ ควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนให้ถี่ถ้วน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงและเราจะต้องระมัดระวังอยู่เสมอ และที่สำคัญเราควรวางแผนแบบองค์รวม เน้นกระจายการลงทุน ไม่ลงธีมใดธีมหนึ่งหรือลงทุนแค่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง เพื่อลดโอกาสในการขาดทุน และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากขึ้น<br /> <br /> Disclaimer : *ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน<br /> ผลการดำเนินงานในอดีตของมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต<br /> <br /> <br /> อ้างอิง <ul> <li><a class="Text-link" href="https://www.cekindo.com/blog/business-indonesia" target="_blank">cekindo.com</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.worldbank.org/en/country/indonesia/overview" target="_blank">worldbank.org</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://worldpopulationreview.com/countries/indonesia-population" target="_blank">worldpopulationreview.com</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://thaipublica.org/2022/10/asean-weekly-roundup-166/" target="_blank">thaipublica.org/asean-weekly-roundup-166</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.dailynews.co.th/news/3027491/" target="_blank">dailynews.co.th</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://thestandard.co/indonesia-tax-waiver-policy/" target="_blank">thestandard.co</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://kppip.go.id/" target="_blank">kppip.go.id</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.salika.co/2022/01/16/key-success-startup-unicorn-indonesia/" target="_blank">salika.co</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.nasdaq.com/articles/top-9-nickel-producing-countries-updated-2024" target="_blank">nasdaq.com</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.mining-technology.com/data-insights/nickel-in-indonesia/" target="_blank">mining-technology.com</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://thaipublica.org/2019/05/pridi144/" target="_blank">thaipublica.org/pridi144</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.springnews.co.th/keep-the-world/environment/850437" target="_blank">springnews.co.th</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.aseanstats.org/wp-content/uploads/2023/10/ASH-2023-v1.pdf" target="_blank">aseanstats.org</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.nasdaq.com/articles/top-9-nickel-producing-countries-updated-2024" target="_blank">nasdaq.com</a></li> </ul> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
6 Min Read
share
รอบรู้เรื่องลงทุน

ลงทุนกองทุนรวมธีม ESG ปั้นพอร์ตให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงขึ้น และข่าวการทุจริตคอร์รัปชัน ส่งเสริมให้ทุกคนเรียกร้องความโปร่งใสจากภาคธุรกิจ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/trend-invest-esg-mutual-fund" target="_blank">การลงทุนแบบ ESG</a> (Environmental, Social and Governance) ที่ย่อมาจาก<br /> <br /> &quot;E&quot; Environmental (สิ่งแวดล้อม) คำนึงถึงความรับผิดชอบขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม<br /> &quot;S&quot; Social (สังคม) เป็นตัวชี้วัดว่าองค์กรจัดการความสัมพันธ์และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไรบ้าง<br /> &quot;G&quot; Governance (บรรษัทภิบาล) การกำกับดูแล การบริหารจัดการนี้ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย<br /> <br /> ซึ่ง ESG จะเป็นตัวชี้วัดในเบื้องต้นว่าองค์กรมีความรับผิดชอบต่อโลกหรือไม่ และมีแนวโน้มในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างไรภายใต้แนวโน้มของการทำธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหลัก<br /> <br /> ดังนั้น ESG จึงเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะไม่ใช่แค่การแสวงหาผลตอบแทน แต่ยังสะท้อนถึงค่านิยมและความรับผิดชอบต่อโลกและสังคมของนักลงทุนด้วย Krungsri The COACH จะมาพาทุกคนมาสำรวจกันว่าการลงทุนในธีม ESG นอกจากจะช่วยรักษ์โลกแล้ว ในด้านของการลงทุนกองทุนรวมจะช่วยให้เงินลงทุนของทุกคนเติบโตได้อย่างยั่งยืนอย่างไรบ้าง <div class="ar-category"> <div class="accordion" id="ar-drop"> <div class="row"> <div class="col-12"> <div id="ar-category"> <div class="card bg-transparent"> <div aria-expanded="false" class="card-header arrow active collapsed" data-bs-target="#collapse-26012" data-bs-toggle="collapse" id="heading26012"> <h3><button class="btn btn-link btn-ar-drop" type="button">เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ</button></h3> </div> <div class="collapse" data-parent="#ar-drop" id="collapse-26012" style=""> <div class="card-body"> <ul class="ar-ul"> <li><a href="#title-1">การลงทุนในธีม ESG ดีอย่างไรในยุคนี้</a></li> <li><a href="#title-2">4 เทคนิคลงทุนกองทุนธีม ESG ให้เติบโตดั่งใจ</a></li> <li><a href="#title-3">สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับกองทุน ESG</a></li> </ul> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>การลงทุนในธีม ESG ดีอย่างไรในยุคนี้</h2> </div> <center><img alt="ลงทุนกองทุน thai esg" class="img-fluid" src="/getmedia/06254310-1593-4d4d-aca3-74e98c0a87bd/thai-esg-mutual-fund-growth-image01.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ทำให้โลกดีขึ้น (สร้างความยั่งยืนให้กับโลก)</strong></span></h3> จากรายงานความเสี่ยงประจำปี 2021 จาก World Economic Forum (WEF) นั้น ได้ระบุว่า สภาพอากาศและความล้มเหลวจากการจัดการด้านภูมิอากาศล้วนแล้วแต่เป็นความเสี่ยงที่จะส่งผลต่อวิกฤตในการดำรงชีวิตของมนุษย์ภายในสิบปีข้างหน้า การช่วยสนับสนุนและ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/time-for-invest-esg-fund" target="_blank">ลงทุนในธีม ESG</a> เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนให้บริษัทที่มีนโยบายส่งเสริมความยั่งยืนในสังคมและสิ่งแวดล้อมได้มีแหล่งระดมทุนในการประกอบกิจการต่อไป<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า (สร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน)</strong></span></h3> ผลการศึกษาส่วนใหญ่ล้วนบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ในระยะยาวการลงทุนในกลุ่ม ESG ให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนแบบทั่วไป ดูตัวอย่างได้จาก 2 Index ดังนี้ <ul> <li><strong>SETTHSI Index :</strong> ดัชนีความยั่งยืนที่จัดทำและเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 2561 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คัดเลือกหุ้นจากบริษัทจดทะเบียนในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) ซึ่งผ่านการประเมินความยั่งยืนและมีผลการดำเนินงานด้าน ESG โดดเด่น จะเห็นได้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดัชนี SETTHSI มีผลตอบแทนเฉลี่ย 3% สูงกว่าดัชนีอื่นที่มีผลตอบแทนติดลบ 18 - 19% สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าดัชนี SETTHSI สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ (ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566)</li> <li><strong>MSCI EM ESG Leaders Index :</strong> ดัชนีความยั่งยืนที่จัดทำโดย MSCI พิจารณาบริษัททั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินงานด้าน ESG โดดเด่นครอบคลุม 24 ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) พบว่านับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน ดัชนี MSCI EM ESG Leaders มีผลตอบแทนมากกว่าดัชนีทั่วไปถึง 64.81% โดยดัชนี MSCI EM ESG Leaders Index มีผลตอบแทน 89.32% ในขณะที่ดัชนี MSCI Emerging Markets ให้ผลตอบแทนเพียง 24.51% (ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566)</li> </ul> &nbsp; <center><img alt="เทคนิคลงทุนกองทุนธีม esg ให้เติบโต" class="img-fluid" src="/getmedia/678e2bd3-e456-43dd-9360-e70104a9f568/thai-esg-mutual-fund-growth-image02.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>ลดการขาดทุนหนัก (สร้างความมั่นคงในการลงทุน)</strong></span></h3> บริษัทที่ผ่านเกณฑ์ ESG จะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลในอนาคตที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ และความสามารถในการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว<br /> <br /> ในช่วงปี 2563 ที่ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทุกดัชนีปรับตัวลดลงอย่างมาก แต่ดัชนี SETTHSI ปรับตัวลงไม่แรงเท่ากับดัชนีอื่น ๆ สะท้อนว่าธุรกิจที่ดำเนินงานโดยคำนึงถึง ESG สามารถปรับตัวและรับมือกับความผันผวนในภาวะวิกฤตได้ (ข้อมูลจาก SETTHSI Index)<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>มีแนวโน้มการเติบโตของตลาด (สร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้)</strong></span></h3> จากความสำคัญของ ESG ทำให้ประชาชนและองค์กรส่วนใหญ่บนโลกนี้มองว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ และต้องปฏิบัติให้เร็วที่สุด ดังนั้น ESG จะกลายมาเป็นกติกาใหม่ที่ทั้งโลกรับรู้ร่วมกันในการทำธุรกิจโดยให้ความยั่งยืนเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่จะได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าบริษัทที่เน้นผลกำไรเป็นหลัก<br /> <br /> ในปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่ง ได้หันมาให้การสนับสนุนแนวคิด ESG โดยมีนโยบายที่จะไม่สนับสนุนเงินลงทุนกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโดยไม่เน้นความยั่งยืนกับโลก อย่างเช่น สินค้าที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม หรือโรงไฟฟ้าถ่านหิน ดังนั้นธุรกิจที่ใช้หลัก ESG จึงได้เปรียบในเรื่องของเงินทุนอย่างชัดเจน และสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-2"> <h2>4 เทคนิคลงทุนกองทุนธีม ESG ให้เติบโตดั่งใจ</h2> </div> <center><img alt="ลงทุนกองทุนรวมธีม esg เพื่อปั้นพอร์ตให้เติบโต" class="img-fluid" src="/getmedia/f7a0f6a0-5616-4d3e-86d2-8846a2d3ef3c/thai-esg-mutual-fund-growth-image03.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <br /> Krungsri The COACH แนะนำให้ลงทุนกองทุนรวม ESG โดยมีเทคนิคการลงทุนและการเลือกกองทุน ESG ง่าย ๆ 4 ข้อ ดังนี้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. เลือกลงทุนกองทุนรวม ESG ที่มีโอกาสเติบโตไปกับเมกะเทรนด์</strong></span></h3> จะช่วยให้เงินลงทุนเติบโตตามเทรนด์ของโลก เช่น การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เนื่องจากหลังปี 2563 โลกได้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง และมีแนวโน้มการเติบโตพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาธุรกิจที่มั่นคงและมีศักยภาพในการเติบโตสูงในยุคดิจิทัล<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. เลือกลงทุนกองทุนรวม ESG ที่มีประวัติผลตอบแทนย้อนหลังดี</strong></span></h3> การลงทุนเป็นการคาดหวังให้เงินช่วยทำงาน ผลการดำเนินการจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ จากการศึกษาพบว่า กองทุนรวมที่มีผลการดำเนินการย้อนหลังระยะยาวที่ดีมีแนวโน้มทำผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. เลือกลงทุนกองทุนรวม ESG ที่มีการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม</strong></span></h3> การลงทุนในกองทุน ESG ที่มีการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมจะช่วยกระจายความเสี่ยง ลดความผันผวนจากภาวะตลาดที่กระทบกับอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น พลังงานสะอาด (Clean Energy) อย่างธุรกิจพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ หรือการขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport) อย่างธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทาน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. การลงทุนด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA</strong></span></h3> ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ใช้วินัยในการออมและลงทุน ไม่พลาดการลงทุนเพราะความกังวลจากภาวะตลาดไม่ปกติ เป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย เหมาะกับนักลงทุนทุกระดับ <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-3"> <h2>สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับกองทุน ESG</h2> </div> <center><img alt="สร้างโอกาสเติบโตให้ยั่งยืนกับกองทุน esg" class="img-fluid" src="/getmedia/88cf150f-95d6-4b67-91f5-cfe6f5ee73f5/thai-esg-mutual-fund-growth-image04.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2>Krungsri The COACH มีคำแนะนำ หากใครกำลังสนใจและอยากลงทุนกองทุนรวม ESG</h2> </div> <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน (KFTHAIESG)</strong></span></h3> <ul> <li>ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)</li> <li>ลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG ชั้นนำของประเทศ ซึ่งอ้างอิงตามดัชนี SETESG ขุมทรัพย์แห่งบริษัทชั้นนำด้านความยั่งยืน ที่สะท้อนการเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนซึ่งมีผลประเมินหุ้นยั่งยืน (SET ESG Rating)</li> <li>เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการเติบโตในธีม ESG และยังได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย (เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30% ของเงินได้และไม่เกิน 300,000 บาท ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2567)</li> </ul> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>กองทุนเปิดกรุงศรี Equity Sustainable Global Growth (KFESG)</strong></span></h3> <ul> <li>ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)</li> <li>ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Corporate Governance : ESG) ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ &ldquo;AB Sustainable Global Thematic Portfolio, Class S1 USD&rdquo; (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนใน 3 ธีมการลงทุนหลักที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพอนามัย (Health) สภาพภูมิอากาศ (Climate) และการเพิ่มศักยภาพให้กับคนในสังคม (Empowerment) ซึ่งจะเป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จึงช่วยสร้างโอกาสที่แตกต่าง สำหรับการเติบโตในระยะยาว ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/green-technology/kfesg" target="_blank">KFESG</a></li> </ul> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>กองทุนเปิดกรุงศรี ESG Climate Tech (KFCLIMA)</strong></span></h3> <ul> <li>ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)</li> <li>ลงทุนในหุ้นและ/หรือหลักทรัพย์อื่น ๆ ของบริษัททั่วโลกที่มีธรุกิจหลักเกี่ยวกับการควบคุม หรือลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกหรือผลกระทบอื่นที่เกี่ยวข้อง ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ DWS Invest ESG Climate Tech, Class USD TFC (กองทุนหลัก) เติบโตไปกับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรอบด้าน ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก จึงคาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่คนรุ่นหลัง ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/green-technology/kfclima" target="_blank">KFCLIMA</a></li> </ul> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน (K-CHANGE)</strong></span></h3> <ul> <li>ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)</li> <li>ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจซึ่งส่งผลบวกต่อสังคม (Positive Impact) หรือสนับสนุนให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Positive Change Fund - Class B accumulation (GBP) โอกาสรับผลตอบแทนจากการเติบโตของหุ้นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงทั่วโลก และเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญในการประเมินค่าผลกระทบในเชิงบวกของการลงทุนออกมาเป็นตัวเลข (Quantification) โดยมีการทำรายงานเพื่อเผยแพร่เป็นประจำทุกปี ทำให้ผู้ลงทุนสามารถรับรู้ถึงผลกระทบในเชิงบวกที่เกิดจากการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมได้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/green-technology/k-change" target="_blank">K-CHANGE</a></li> </ul> <br /> <strong>สรุป</strong><br /> การลงทุน ESG มีความน่าสนใจในหลายแง่ ทั้งในมุมของความยั่งยืน ผลตอบแทนระยะยาว และการลดความเสี่ยง อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้โลกและสังคมดีขึ้นไปพร้อม ๆ กัน แต่การลงทุนกองทุนรวมหุ้นมีความเสี่ยง ควรพิจารณาเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคล และศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ<br /> <br /> คำเตือน :<br /> <strong>*ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน</strong> <ul> <li>*Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาวและสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน</li> <li>*KFCLIMA ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้</li> </ul> <br /> <br /> อ้างอิง <ul> <li><a class="Text-link" href="https://www.krungsricard.com/th/article/ESG-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3" target="_blank">krungsricard.com</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://setsustainability.com/libraries/1203/item/-sustainability-index-returns" target="_blank">setsustainability.com</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.sec.or.th/TH/Documents/SECWorkingPapersForum/working-paper-forum-25580617-fund2.pdf" target="_blank">sec.or.th</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/green-technology/kfesg" target="_blank">krungsri.com/kfesg</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/green-technology/kfclima" target="_blank">krungsri.com/kfclima</a></li> <li><a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/mutual-fund/products/recommendation/green-technology/k-change" target="_blank">krungsri.com/k-change</a></li> </ul> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
7 Min Read
share
รอบรู้เรื่องลงทุน

ลงทุนกองทุนรวมเวียดนาม ดาวเด่นที่ไม่ควรพลาดในอาเซียน

ถ้าพูดถึงประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีความโดดเด่นที่สุดในการลงทุนนั้นคงหนีไม่พ้นประเทศเวียดนาม จากข้อมูลในปัจจุบันประเทศเวียดนามมี GDP ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างปี 2019 - 2023 นั้น มี GDP ที่เติบโตขึ้น 28.51% (ข้อมูลจาก tradingeconomics.com ณ เดือนมีนาคม 2024) อย่างไรก็ตามหลาย ๆ คน อาจสงสัยว่า ทำไมเวียดนามถึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ แล้วจะสามารถเติบโตแบบนี้ต่อไปได้หรือไม่ อะไรคือปัจจัยและความเสี่ยงของเศรษฐกิจเวียดนาม Krungsri The COACH รวบรวมทุกข้อสงสัย พร้อมพาทุกคนมาหาคำตอบ ถ้าอยากลงทุน<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/dca-vietnam-mutual-fund" target="_blank">กองทุนเวียดนาม</a>ตอนนี้ยังทันไหม มีอะไรที่เราต้องพิจารณาบ้าง <div class="ar-category"> <div class="accordion" id="ar-drop"> <div class="row"> <div class="col-12"> <div id="ar-category"> <div class="card bg-transparent"> <div aria-expanded="false" class="card-header arrow active collapsed" data-bs-target="#collapse-26012" data-bs-toggle="collapse" id="heading26012"> <h3><button class="btn btn-link btn-ar-drop" type="button">เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ</button></h3> </div> <div class="collapse" data-parent="#ar-drop" id="collapse-26012" style=""> <div class="card-body"> <ul class="ar-ul"> <li><a href="#title-1">การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ GDP เวียดนาม</a></li> <li><a href="#title-2">4 เหตุผลที่ GDP เวียดนามเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด</a></li> <li><a href="#title-3">ลงทุนกองทุนเวียดนาม ตอนนี้ยังทันไหม</a></li> <li><a href="#title-4">ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระวัง</a></li> <li><a href="#title-5">กลยุทธ์ในการลงทุนในกองทุนเวียดนาม จาก Krungsri The COACH</a></li> <li><a href="#title-6">กองทุนรวม KFVIET-A</a></li> <li><a href="#title-7">กองทุนรวม PRINCIPAL VNEQ-A</a></li> </ul> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ GDP เวียดนาม</h2> </div> เมื่อเรามาดูกราฟที่แสดงตัวเลขของ GDP เวียดนาม จะเห็นได้ว่ามีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี โดยในปี 2020 นั้น เวียดนามมี GDP อยู่ที่ 346.62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และสำหรับปี 2024 นี้ คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตขึ้นไปอยู่ที่ 453.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือโตขึ้นกว่า 30.76% ซึ่งเป็นตัวเลขการเติบโตที่อยู่ในระดับที่สูงมากและบ่งบอกว่าเศรษฐกิจของเวียดนามนั้นกำลังมีความร้อนแรงจนน่าติดตาม<br /> &nbsp; <center><img alt="ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ gdp ของเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดด" class="img-fluid" src="/getmedia/e7a97315-b2c2-4f6f-983b-7cc4ff3bfcea/invest-vietnamese-mutual-funds-image01.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" />ที่มา : tradingeconomics.com ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2024</center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-2"> <h2>4 เหตุผลที่ GDP เวียดนามเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด</h2> </div> Krungsri The COACH ได้รวบรวมข้อมูลปัจจัยสำคัญที่ทำให้ GDP ของเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ข้อดังนี้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. ด้านประชากร</strong></span></h3> ในปัจจุบันเวียดนามมีประชากรประมาณ 98 ล้านคน และจากข้อมูลของ World Bank นั้น พบว่าประชากรในวัยทำงานในช่วงอายุ 24 - 54 ปี คิดเป็น 45.7% ซึ่งเมื่อคนส่วนใหญ่ยังอายุน้อยและอยู่ในช่วงวัยทำงาน ก็ย่อมทำให้เวียดนามมีความได้เปรียบในแง่ของทรัพยากรบุคคลที่สามารถเป็นแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการบริโภคภายในของประเทศได้<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. ด้านนโยบายรัฐบาล</strong></span></h3> ต้องยอมรับเลยว่ารัฐบาลเวียดนามนั้นสามารถสร้างนโยบายที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ทำให้บริษัทต่างชาติเริ่มกิจการได้ง่ายและช่วยแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ในการลงทุน ทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามา<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/dca-vietnam-mutual-fund" target="_blank">ลงทุนในเวียดนาม</a>มากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ เวียดนามยังเข้าร่วมกับข้อตกลงเขตการค้าเสรี ไม่ว่าจะเป็น AFTA, China-ASEAN Free Trade Area และการเป็นสมาชิกของ CPTPP อีกด้วย รวมทั้งรัฐบาลเวียดนามยังให้ความสำคัญในการกำจัดปัญหาคอร์รัปชัน การบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. ด้านทรัพยากรธรรมชาติ</strong></span></h3> ประเทศเวียดนามมีจุดเด่นในเรื่องทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เกิดการได้เปรียบในการแข่งขันโดยเฉพาะต้นทุนต่าง ๆ ที่สามารถหาได้ในประเทศและไม่ต้องนำเข้า เช่น พลังงานและแร่ธาตุต่าง ๆ รวมถึงแหล่งน้ำมันดิบที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ทำให้เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของภูมิภาคอาเซียนรองจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่โดยเฉพาะข้าว ที่ปัจจุบันสามารถส่งออกได้ในปริมาณใกล้เคียงกับประเทศไทยที่ 7.5 ล้านตัน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. ด้านภูมิรัฐศาสตร์</strong></span></h3> แม้เวียดนามจะมีความขัดแย้งกับประเทศจีนจากปัญหาเขตแดนและหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ แต่เวียดนามก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนในแง่ของการค้าและการลงทุน เนื่องจากจีนต้องการกระจายความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดังนั้นจึงมีการเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้เวียดนามมีความได้เปรียบในด้านโลจิสติกส์มากกว่าประเทศไทย<br /> <br /> จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของประเทศเวียดนามไม่ว่าจะเป็นเรื่องความได้เปรียบในแง่ของประชากร ทรัพยากร ภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศ ตลอดจนนโยบายรัฐที่สนับสนุนเศรษฐกิจนั้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในระยะยาว <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-3"> <h2>ลงทุนกองทุนเวียดนาม ตอนนี้ยังทันไหม</h2> </div> &nbsp; <center><img alt="ลงทุนกองทุนเวียดนาม ตอนนี้ยังทันไหม" class="img-fluid" src="/getmedia/ff80d8c9-1aad-44cd-a369-746be1fef943/invest-vietnamese-mutual-funds-image02.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <br /> การลงทุนในเวียดนามตอนนี้ยังไม่ถือว่าสายเกินไป เพราะจากข้อมูลจะเห็นได้ว่าตลาดเวียดนามยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกในระยะยาว ดังนั้นนักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการลงทุนในระยะยาว โดยลงทุนอย่างน้อย 3 - 5 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ควรเน้นการ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/dca-vietnam-mutual-fund" target="_blank">ลงทุนในกองทุนเวียดนาม</a>ที่โฟกัสไปยังหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เช่น ในกลุ่มของธนาคาร สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ และทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี 2 ปัจจัยที่ควรต้องพิจารณาก่อนลงทุน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. ความถูก-แพงของตลาดหุ้นเวียดนาม</strong></span></h3> โดยภาพรวมของตลาดหุ้นเวียดนามในปัจจุบัน ยังถือว่าไม่แพงมาก จากข้อมูลของราคาหุ้นเทียบกับกำไรต่อหุ้นหรือ P/E Ratio อ้างอิงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2024 นั้น อยู่ที่ 15.95 เท่า ต่ำกว่า P/E Ratio ของตลาดสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ที่ 24.73 เท่า<br /> &nbsp; <center><img alt="การเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนาม" class="img-fluid" src="/getmedia/97d22f42-b0e8-45ee-a5e4-ebc6a2274687/invest-vietnamese-mutual-funds-image03.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" />ที่มา : ข้อมูลจาก worldperatio.com ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2024</center> <h3 class="mb-20px-all"><br /> <span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. การเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนาม</strong></span></h3> เดิมทีตลาดหุ้นเวียดนามถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นตลาดที่ยังมีความเสี่ยงสูง แต่ด้วยการปฏิรูปกฎหมายและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลเวียดนาม ทำให้ตลาดได้มีการยกระดับให้เกิดเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเวียดนามอาจจะถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ในช่วงปี 2025 ซึ่งในเวลานั้นจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าไปในเวียดนาม โดยเฉพาะในกลุ่มของหุ้นในดัชนี VN30 หากใครได้เข้าไปลงทุน โดยเฉพาะกองทุนเวียดนามก่อนก็จะมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการเติบโตก่อนได้ <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-4"> <h2>ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระวัง</h2> </div> อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนเวียดนามนั้นก็ยังมีความเสี่ยงและความท้าทายอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งการเปลี่ยนตัวของผู้นำระดับสูงอาจจะส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นได้ นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสูง หากประเทศคู่ค้าหลาย ๆ แห่งเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจก็ย่อมส่งผลต่อเวียดนามโดยตรง อีกทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามยังมีความผันผวนที่สูงมาก และยังมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน 2 ต่อ จากการที่จะต้องแลกเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะแลกเป็นเงินดองเวียดนาม ทั้งในขานำเงินไปลงทุน และในขานำเงินกลับมา ซึ่งอาจทำให้ขาดทุน หรือกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนได้<br /> &nbsp; <center><img alt="กลยุทธ์ในการลงทุนในกองทุนเวียดนาม" class="img-fluid" src="/getmedia/8bcf1814-9a98-463f-a6b6-b03da59ce7b3/invest-vietnamese-mutual-funds-image04.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-5"> <h2>กลยุทธ์ในการลงทุนในกองทุนเวียดนาม จาก Krungsri The COACH</h2> </div> <ul> <li>มองหากองทุนรวมที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดีสม่ำเสมอ</li> <li>จัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง โดยยังคงแนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามหรือกองทุนเวียดนามเป็นส่วนเสริมจากพอร์ตการลงทุนหลัก</li> <li>ลงทุนด้วยการทยอยซื้อกองทุนเวียดนามแบบรายเดือนหรือ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/life/good-life/investment-dca" target="_blank">Dollar Cost Average (DCA)</a> เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน ไปพร้อม ๆ กับเปิดโอกาสรับประโยชน์จากการเติบโตของกองทุน</li> </ul> &nbsp; <center><img alt="แนะนำกองทุนเวียดนาม" class="img-fluid" src="/getmedia/792c21f9-d92f-4daf-b4ab-2dec2a16c316/invest-vietnamese-mutual-funds-image05.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <br /> สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะลงทุนในเวียดนาม Krungsri The COACH ขอแนะนำกองทุนเวียดนามที่เพิ่มโอกาสให้เราเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจเวียดนาม ได้แก่ <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-6"> <h2>กองทุนรวม KFVIET-A</h2> </div> <ul> <li>กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในประเทศเวียดนามหรือมีธุรกิจหลัก หรือได้ประโยชน์จากการประกอบธุรกิจในประเทศเวียดนาม</li> <li>ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อว่า JPMorgan Vietnam Opportunities Fund 40.74% Dragon Capital Vietnam Equity UCITS Fund - Class A 40.37% และ Lumen Vietnam Fund 18.52% (ข้อมูลจาก บลจ.กรุงศรี ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567)</li> <li>มีความเสี่ยงสูง (ระดับ 6)</li> <li>เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง</li> </ul> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-7"> <h2>กองทุนรวม PRINCIPAL VNEQ-A</h2> </div> <ul> <li>กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน (หุ้น) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต</li> <li>ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน เช่น หุ้น FPT CORPORATION 9.88%, MOBILE WORLD INVESTMENT CORP 9.17%, MILITARY COMMERCIAL JOINT STOCK BANK 7.60% เป็นต้น (ข้อมูลจาก บลจ.พรินซิเพิล ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567)</li> <li>มีความเสี่ยงสูง (ระดับ 6)</li> <li>เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง</li> </ul> &nbsp; <center><img alt="กองทุนรวมเวียดนามดาวรุ่งผลตอบแทนเด่นในอาเซียน" class="img-fluid" src="/getmedia/2e59491b-1c2c-4bd1-9f76-468c1079f6b2/invest-vietnamese-mutual-funds-image06.webp.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></center> <br /> โดยสรุปแล้วเวียดนามไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางของคนไทยที่ต้องการไปท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตาในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนอีกด้วย ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนของเวียดนามได้ ผ่านการลงทุนในกองทุนเวียดนามได้ตั้งแต่วันนี้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนเวียดนามนั้นมีความเสี่ยงและความท้าทายอีกหลายอย่าง จึงควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุป (Fund Fact Sheet) ของกองทุนก่อนการลงทุนเสมอ<br /> <br /> <strong>ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน</strong> <ul> <li>ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต</li> <li><a class="Text-link" href="https://www.krungsriasset.com/DataWeb/AYFWeb/th/pdf/FFS_KFVIET-A_TH.pdf?rnd=20240306122005" target="_blank">กองทุน KFVIET-A</a> และ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/bank/CustomizationResource/FundFactSheet/FFS_PRINCIPAL-VNEQ-A_TH.pdf" target="_blank">PRINCIPAL VNEQ-A</a> ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้</li> <li>กองทุน KFVIET-A และ PRINCIPAL VNEQ-A ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย</li> </ul> <br /> อ้างอิง <ul> <li class="fz-12px-xs-i">tradingeconomics.com/vietnam/gdp</li> <li class="fz-12px-xs-i">marketeeronline.co/archives/351153</li> <li class="fz-12px-xs-i">bit.ly/45RO6Pr</li> <li class="fz-12px-xs-i">www.asean-info.com/asean_members/vietnam_economics.html</li> <li class="fz-12px-xs-i">bit.ly/3XVNDtC</li> <li class="fz-12px-xs-i">themomentum.co/report-vietnam-lead-thailand/</li> <li class="fz-12px-xs-i">worldperatio.com/area/vietnam/</li> <li class="fz-12px-xs-i">thestandard.co/vietnam-stocks-opportunities-and-challenges/</li> <li class="fz-12px-xs-i">greedisgoods.com/frontier-market/</li> <li class="fz-12px-xs-i"><a class="Text-link" href="https://krungsriasset.com/DataWeb/AYFWeb/th/pdf/FFS_KFVIET-A_TH.pdf?rnd=20240624105019" target="_blank">krungsriasset.com/FFS_KFVIET-A_TH.pdf</a></li> <li class="fz-12px-xs-i">www.principal.th/sites/default/files/fund-documents/Thailand%20Site/th_PRINCIPAL_VNEQ_FFS.pdf</li> </ul> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
7 Min Read
share
บทความที่เกี่ยวข้อง