ทำไมกองทุน SSF ลดหย่อนภาษี ถึงยืนหนึ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือน

Posted On 27 กรกฎาคม 2563
By Krungsri The COACH
Super Savings Fund (SSF) คืออะไร
Super Savings Fund (SSF) คือ กองทุนรวมที่สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทน Long Term Fund (LTF) ที่หมดอายุไปเมื่อสิ้นปี 2562 ได้ โดยจุดประสงค์ของ SSF คือ เพื่อส่งเสริมการออมเงินระยะยาวและมีการพัฒนาปรับปรุงทั้งนโยบายการลงทุน เงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีของ SSF ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของ SSF ลดหย่อนภาษีได้จริงหรือ?
ผู้ลงทุนในกองทุน SSF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่จำนวนจะต้องไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อไปนับรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ อย่างกองทุนรวมสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และ ประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วห้ามเกิน 500,000 บาท และอีกเงื่อนไขหนึ่งสำหรับผู้ที่นำ SSF ไปลดหย่อนภาษี คือ ต้องถืออย่างน้อย 10 ปีวันชนวันขึ้นไป
กองทุน SSF เหมาะกับใคร
1. SSF เหมาะกับคนที่ต้องการลดภาระภาษี
สำหรับคนที่มีรายได้แต่ต้องการจ่ายภาษีในแต่ละปีน้อยลง การลงทุนผ่านกองทุน SSF ก็จะช่วยลดหย่อนภาษีได้ และด้วยเงื่อนไขของ SSF สำหรับคนที่รายได้ไม่เกิน 666,667 บาทต่อปี ก็สามารถลดหย่อนเต็มสิทธิได้ หรือสำหรับใครมีรายได้พิเศษเข้ามาเป็นปี ๆ ก็สามารถใช้ SSF ลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจาก SSF ซื้อปีไหนก็ลดหย่อนได้ปีนั้น ไม่มีภาระหรือเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนทุกปี
2. SSF เหมาะกับคนที่ไม่ติดตามข่าวสารการลงทุน
SSF ถือได้ว่าเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ซึ่งการลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นเหมาะกับคนที่ไม่ติดตามข่าวสาร เนื่องจากกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลจัดการเงินลงทุนให้กับเรานั่นเอง
3. SSF เหมาะกับคนที่ต้องการจัดพอร์ตการลงทุน
กองทุนรวม SSF สามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ตลาดเงิน ตราสารหนี้ทั้งรัฐและเอกชน ตราสารทุน รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ ดังนั้น การลงทุนในกองทุน SSF นอกจากเป็นทางเลือกในการลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังสามารถช่วยในการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยการ
จัดสรรสินทรัพย์ให้เหมาะกับความเสี่ยงที่รับเรารับได้ โดยการจัดสรรสินสินทรัพย์นั้น จะช่วยลดความผันผวนของของพอร์ตการลงทุนได้ดีการลงทุนที่กระจุกตัวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง
4. SSF เหมาะกับเป้าหมายการเงินระยะยาว
จากเงื่อนไขที่ต้องถืออย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป ทำให้ SSF เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่ช่วยสร้างวินัยการออมเงินได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการใช้วางแผนสำหรับเป้าหมายการเงินในระยะยาว นอกจาก SSF จะช่วยเพิ่มโอกาสที่เราจะเก็บเงินไปตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว การลงทุนในระยะยาวยังช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้อีกด้วย

วิธีการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ ที่ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องช่วงเวลาที่จะลงทุน (Timing) ในการลงทุนได้ดี เหมาะกับการลงทุนใน SSF อย่างมาก ก็คือ Dollar-Cost Averaging (DCA) ที่จะเป็นการซื้อสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน โดยไม่สนใจราคาของสินทรัพย์ ซึ่งการทำ DCA เราจะกำหนดเวลาในการซื้อไว้อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น เรากำหนดไว้ว่าทุกวันที่ 1 ของทุกเดือนจะทำการซื้อ SSF เดือนละ 5,000 บาท ตลอดทั้งปีเราก็จะซื้อ SSF ได้รวม 60,000 บาท
การลงทุนแบบ DCA จะช่วยทำให้เราลงทุนได้ง่ายขึ้น ตัดสภาวะอารมณ์ของตลาดออกไป เมื่อตลาดปรับตัวลงเราจะได้หน่วยลงทุนที่มากขึ้น และเมื่อตลาดปรับตัวขึ้นเราก็จะได้หน่วยลงทุนที่น้อยลงโดยอัตโนมัติ เมื่อเราทำ DCA ในระยะยาวก็ช่วยทำให้เราได้ราคาหน่วยลงทุนในระดับราคาเฉลี่ยโดยอัตโนมัตินั่นเอง ทั้งนี้สามารถศึกษาเรื่องการลงทุนแบบ DCA เพิ่มเติมได้ที่นี่
คลิก