หากพูดถึงสื่อหนังสือ นิตยสารออนไลน์ในรูปแบบ e-book หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึง Ookbee (หากผวนจะอ่านได้ว่า E-Book) โครงการ Startup สัญชาติไทยที่ทำแพลตฟอร์มขึ้นมาเอง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากปี 2012 จนถึงวันนี้ Ookbee เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมก้าวกระโดดจากการระดมทุนครั้งใหญ่ร่วมกับ Tencent จนได้เป็นธุรกิจใหม่ Ookbee U ที่ดูแลธุรกิจด้าน UGC (User Generated Content) โดยเฉพาะ คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ได้ให้มุมมองและเล่าถึงแผนการในอนาคตที่ตกผลึกจากการใช้วิชาความรู้และประสบการณ์ในการสร้าง Ookbee
Ookbee U น้องใหม่จาก Ookbee
สำหรับ Ookbee คงคุ้นเคยกันมานาน เราเรียกตัวเองว่าเป็น content จากมืออาชีพ เพราะ Ookbee นำ content มาจากหนังสือและนิตยสาร แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมาเราลองขยายธุรกิจไปยังฝั่ง UGC ก็คือ content ที่ถูกสร้างโดยใครก็ได้ จะเป็นเด็กมัธยมที่วาดรูปเก่ง ร้องเพลงเพราะ หรือคนเกษียณแล้วที่มีเวลาแต่งนิยายสนุก ๆ ก็ได้ และเขาก็สามารถหารายได้จาก content ที่เขาสร้างเองได้เลย ด้วยเหตุนี้ ตลาด UGC ถึงได้มีขนาดใหญ่มาก ทำให้ platform ของ Ookbee ที่เป็น UGC มี user เข้ามาใช้และมีอัตราการเติบโตที่สูงมากจนเราตัดสินใจตั้งเป็นบริษัทใหม่ที่เรียกว่า Ookbee U โดยจะเน้นเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ ตั้งแต่การฟัง อ่าน ดู และแชร์ โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ คือ- Ookbee Comics: เขียน วาด และอ่านการ์ตูน
- Fungjai: เพลง และดนตรี มิวสิก สตรีมมิง ของเหล่าคอดนตรีนอกกระแส
- Storylog: Platform สำหรับนักคิด นักเขียน บล็อกเกอร์ สำหรับแชร์ประสบการณ์ ความคิดเห็น
- ธัญวลัย: คอมมูนิตี้ออนไลน์สำหรับนักเขียนนิยายทุกประเภท และ Fictionlog: Platform การอ่าน-การเขียนนิยายออนไลน์
วิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมและทีมที่แข็งแกร่งสู่ความสำเร็จ
กว่า Ookbee จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ในฐานะของ founder ผมเชื่อว่าเรามีหน้าที่ต้องกำหนดมุมมองให้ชัดเจน สิ่งนี้สำคัญมากเพราะทุกคนในบริษัทถึงจะมีหน้าที่ต่างกัน แต่ทุกคนต้องเดินไปในทิศทางเดียวกัน ธุรกิจเราถึงจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ และระหว่างการเดินทางนั้น เราต้องคอยเชียร์และให้กำลังใจทีมงานอยู่เสมอเพราะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรก็ตาม จุดเริ่มต้นมักจะเป็นช่วงที่ยากที่สุด เราอาจจะต้องเป็นทั้ง CEO, Developer, Legal, Sales ทั้ง ๆ ที่เราอาจจะมีหรือไม่มีความรู้ในด้านนั้น ๆ มาก่อน แต่เราต้องเป็นที่พึ่งให้ทีมได้ในช่วงที่มีปัญหาหรือเวลาที่ต้องการการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเรื่องทีมก็เป็นส่วนที่สำคัญมากในธุรกิจ Startup เราต้องจ้างคนที่เก่งกว่า ด้วยราคาที่ถูกกว่าเราทำเอง เช่น เราควรจ้างนักบัญชีมาทำบัญชีให้เราเพราะเขามีความสามารถมากกว่าเราและยังทำได้เร็วกว่าเราอีกด้วย เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีจำกัด เราควรเอาเวลาไปทำในสิ่งที่ควรทำ เช่น การวางแผนธุรกิจว่าควร scale up ตอนไหน นำกลยุทธ์ต่าง ๆ มาทดลองใช้และเก็บข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น รวมถึงการระดมทุน การคุยและต่อรองกับนักลงทุนด้วยเช่นกัน