ร้านอาหารที่น่าประทับใจ ไม่ใช่แค่รสชาติหรือบรรยากาศดี แต่ยังรวมไปถึงการสะสมชื่อเสียงและความประทับใจของลูกค้าผ่านวันเวลาอันยาวนาน จนทำให้ “ความเก่า” กลายเป็น “ความเก๋า” และ “คลาสสิก” และถ้าคุณกำลังมองหาร้านอาหารแบบที่ว่านี้ ลองมาตามรอยแผนที่ความอร่อยของเราได้เลย
ในแต่ละวัน กรุงเทพฯ มีร้านอาหารใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด แต่สิ่งที่ยากกว่าการสร้าง คือ การรักษาเอกลักษณ์ของร้านตนเองให้คงอยู่เหมือนครั้งแรกเริ่ม เช่นเดียวกับร้านอาหารระดับตำนานที่เปิดขายมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี และยังคงรสชาติอันยอดเยี่ยมและความชิคมาจนถึงปัจจุบัน ครองใจแฟนคลับหลากหลายเจเนอเรชัน ใครอยากรู้ว่ามีร้านไหนบ้าง ตามมาได้เลยค่ะ
เปิดฉากร้านแรกด้วยสภากาแฟของวัยเก๋าย่านวังบูรพา ‘ออน ล๊อก หยุ่น’ (On Lok Yun) ร้านห้องแถวคูหาเดียวที่มีอายุกว่า 70 ปี ตั้งอยู่ข้างโรงหนังเฉลิมกรุง ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร และจากคำบอกเล่าในอดีตเชื่อกันว่า ออน ล๊อก หยุ่น เป็นร้านที่ดารารุ่นเก่าไฮโซแห่งยุคต้องมา ตลอดจนโก๋หลังวังอย่างแดง ไบเล่ ก็ร่วมสมัยมากับร้านนี้ด้วยเช่นกัน
บรรยากาศภายในร้านยังคงความคลาสสิกเอาไว้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะโต๊ะเก้าอี้ทรงกลมแบบโบราณที่เหมาะกับการตั้งวงสนทนายามเช้า ชั้นวางของ เคาน์เตอร์ และตู้โชว์กระป๋องเครื่องดื่มแบบดั้งเดิม ซึ่งเพิ่มเสน่ห์ของร้านให้มากกว่าร้านกาแฟทั่วไป อีกทั้งยังทำให้สะดุดตาคนที่เดินผ่านไปมา
ที่นี่บริการอาหารเช้าแบบฝรั่ง มีทั้งไข่ดาว เบคอน หมูแฮม ไส้กรอก ส่วนเมนูขนมปังก็เด็ดไม่เบา เริ่มจากของกินเล่นอย่างสังขยา ไปจนถึงเฟรนช์โทสต์ ขนมปังชุบไข่ตำรับฝรั่งเศสที่กรอบนุ่มละมุนลิ้น จากนั้นตบท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่ม ไมโลเย็น และชาเย็นรสเยี่ยม หวานพอดิบพอดี ในราคาย่อมเยาว์สบายกระเป๋า
หลังได้อรรถรสกับสภากาแฟยามเช้าเรียบร้อยแล้ว เรายังมีอีกหนึ่งย่านที่วัยเก๋ายุค 2499 อันธพาลครองเมืองต้องรู้จัก คือ วิสุทธิกษัตริย์ ซึ่งมีร้านเด็ด คือ ‘ภัตตาคารพูลสิน’ (Poonsinn Restaurant) ภัตตาคารจีนเก่าแก่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่หัวมุมแยกวิสุทธิกษัตริย์ เปิดตำนานความอร่อยมาแล้วกว่า 50 ปี ในตัวร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีทั้งหมด 2 ชั้น สามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก และสามารถเลือกนั่งได้ทั้งโซนพัดลมและห้องแอร์
แต่ละวันจะมีลูกค้าแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย เพราะอาหารของพูลสินมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งยังสามารถเลือกขนาดของอาหารได้อีกด้วย ที่สำคัญรสชาติอาหารก็อร่อยถูกปากถูกใจลูกค้า โดยเฉพาะ ‘เป็ดย่าง’ เนื้อนุ่ม หนังบางกรอบ ที่เสิร์ฟคู่ผักดองแบบเปรี้ยว ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียว และอีกเมนูหนึ่งที่ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน คือ ‘หมูกรอบ’ ที่หนังกรอบฟู เนื้อนุ่มฉ่ำ จะทานกับข้าวหรือบะหมี่ก็ลงตัวไปหมด
แม้พูลสินจะขึ้นชื่อว่าเป็นภัตตาคาร แต่ราคาอาหารก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด จึงไม่น่าแปลกที่ทุกวันนี้ยังสามารถครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนานแบบรุ่นสู่รุ่นเลยทีเดียว
เพลินกับร้านอร่อย ๆ ในย่านจิ๊กโก๋ไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาของย่านเดินกิน เดินเที่ยวอย่างเสาชิงช้า ซึ่งร้านที่เราจะพาไปชิม เรียกว่าเป็นโลโก้ของย่านนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ ‘มิตรโกหย่วน’ (Mit Ko Yuan) ร้านอาหารตามสั่งไทย-จีนไหหลำ ที่มีสารพัดเมนูรสชาติดีให้เลือกทาน เปิดมาแล้วกว่า 60 ปี ตัวร้านเป็นเพียงตึกแถวเล็ก ๆ บนถนนดินสอ บริเวณด้านหน้ามีโต๊ะเก้าอี้ไม้แบบเก่าวางเรียงรายไว้รอรับแขก แต่ถ้าชอบบรรยากาศเย็นฉ่ำก็ขอแนะนำเป็นโซนห้องแอร์ที่อยู่ด้านหลังร้าน
มิตรโกหย่วนมีจานเด็ด หรือ Signature ของร้าน คือ ‘สตูลิ้นวัว’ ซึ่งถูกเล่าต่อกันมาว่า เมนูนี้เจ้าของร้านรุ่นแรกได้รับคำแนะนำมาจากนายปรีดี พนมยงค์ รสชาติของน้ำสตูเข้มข้น ส่วนลิ้นวัวก็ถูกเคี่ยวจนเปื่อยนุ่มละมุนลิ้น ไร้กลิ่นคาว
ต่อมาขอสั่ง ‘ต้มยำกุ้งน้ำใส’ เมนูน้ำ ๆ รสแซ่บจัดจ้าน แค่ยกมาเสิร์ฟ น้ำลายก็สอ!! เพราะที่ร้านเลือกใช้กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เนื้อแน่นหวาน ซดกับน้ำซุปร้อน ๆ หอมกรุ่นเครื่องต้มยำ เผ็ดนิด เปรี้ยวหน่อย เรียกว่าโดนใจสุด ๆ ไปเลย
ส่งท้ายวันนี้ เราขอแนะนำร้านอาหารไทยเก่าแก่ ‘ครัวนพรัตน์’ (Nopparat Cuisine & Gallery) แห่งถนนพระอาทิตย์ ที่กลับมาเล่าขานบทใหม่ หลังจากปิดตัวและปล่อยเช่าไปนานถึง 5 ปี ภายใต้การดูแลของ ‘ทิพอาภา ยิ่งเจริญ’ ลูกสาวของ ‘อรศรี ศิลปี’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘คุณป้านิด’
การกลับมาในครั้งนี้ ทางร้านยังมีแนวคิดดี ๆ เพื่อแปลงโฉมครัวนพรัตน์ให้กลายเป็นร้านอาหารกึ่งแกลเลอรี ทว่ายังคงรักษาโครงสร้างอาคารเก่าไว้อย่างสมบูรณ์ ภายในร้านเน้นความโปร่งสบาย เรียบง่าย รวมถึงยังใช้ประตูเหล็ก และประตูบานเฟี้ยมอันเป็นเสน่ห์ของวันวาน
สำหรับเมนูที่พากันติดใจของร้านก็มีมากมาย เริ่มกันที่เมนูเรียกน้ำย่อยกับ ‘หมี่กรอบทรงเครื่อง’ หมี่กรอบเส้นเล็ก ทอดจนเหลืองทอง แล้วนำมาคลุกเคล้ากับน้ำปรุงรสสูตรเฉพาะ รสเปรี้ยวหวาน เผลอแป๊บเดียวก็หมดจานจนต้องขอเบิ้ล และอีกเมนูหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลย คือ ‘ผัดไทยกุ้งสด’ เมนูครัวไทยที่ดังระดับโลก ผ่านการปรุงแบบพิถีพิถัน เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ใครได้ทานก็ติดใจ
รู้สึกอย่างไรกันบ้างคะกับ 4 ร้านระดับตำนานที่เราเลือกมาวันนี้ แต่ถ้าจะให้ดีลองชวนคุณพ่อคุณแม่มาร่วมโต๊ะและย้อนวันวานไปด้วยกัน และอย่าลืมใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าอาหาร เพราะจะได้รับคะแนนสะสม ช่วยเพิ่มดีกรีความสุขให้สมาชิกในครอบครัวได้แบบยกกำลังสองเลยค่ะ
