สินเชื่อคอนโด ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนาน 30 ปี

ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก
1.99%*
ประเมินหลักประกัน
ฟรี**
ค่าจดจำนอง
ฟรี***
ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย
0.25%****
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.194% - 5.685% ต่อปี* ​

*สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 = 7.275% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน Fact sheet คลิก
**ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68)
***ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น
****เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สมัครสินเชื่อคอนโด กู้เงินซื้อคอนโดเต็มวงเงินสูงสุด 110%

ทิศทางการวางแผนอนาคตของคนรุ่นใหม่กำลังเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อโครงการที่พักอาศัยแบบเป็น “หลัง” อาจไม่ตอบโจทย์เท่าการอยู่อาคารสูงอย่างคอนโดมิเนียมอีกต่อไป
วันนี้จึงขอเสนอ “สินเชื่อคอนโด” จากธนาคารกรุงศรี ที่มาพร้อมการอนุมัติวงเงินกู้ซื้อคอนโดสูงสุดที่ 100% ของราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุดอีก 10%* ไม่จำกัดว่าจะเป็นโครงการคอนโดใหม่ หรือคอนโดมือสองสำหรับคนอยากกู้ซื้อคอนโดแล้วมีเงินเหลือไว้ใช้ตกแต่ง เพียงยื่นสมัครง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านี้ ก็สามารถทำเรื่องขอกู้คอนโดได้ตามความต้องการ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถคำนวณสินเชื่อการกู้เงินซื้อคอนโดเบื้องต้นได้อย่างง่ายดาย ด้วยโปรแกรมคำนวณความสามารถในการกู้ คำนวณการผ่อนคอนโด เพียงคลิกที่
“เครื่องมือคำนวณสินเชื่อ” แล้วกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นกดคำนวณได้เลย
*สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารสนับสนุน (Platinum Developers) (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)
 

รู้จัก “สินเชื่อคอนโด” กู้วงเงินเพิ่มไว้ตกแต่ง กับสินเชื่อจากกรุงศรี

“สินเชื่อคอนโด” จากธนาคารกรุงศรี บริการสินเชื่อที่พร้อมอนุมัติวงเงินกู้ซื้อคอนโดสูงสุดที่ 110% ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถกู้สินเชื่อในวงเงินที่มากกว่าเพื่อเป็นเงินส่วนเพิ่มเอาไว้ใช้จ่าย เป็นค่าเฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า,ต่อเติม หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย ทั้งนี้สำหรับคอนโดในโครงการที่ธนาคารสนับสนุน (Platinum Developers) เท่านั้น ซึ่งธนาคารจะพิจารณาวงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% ยกตัวอย่างเช่น การยื่นเรื่องกู้เงินซื้อคอนโดในวงเงินราคา 3.3 ล้านบ้าน เพื่อนำไปซื้อคอนโดในราคา 3 ล้านบาท ส่วนต่างอีก 300,000 บาทก็จะเป็นส่วนต่างที่คุณสามารถนำไปตกแต่งเพิ่มเติมได้ เป็นต้น
 

3 เหตุผลที่ควรขอสินเชื่อคอนโดกับธนาคารกรุงศรี

  • อัตราดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 1.99% ต่อปี พร้อมรับสิทธิลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 20% ตลอดอายุสัญญา*
  • เงื่อนไขการกู้: ให้คุณสามารถขอสินเชื่อคอนโด เพื่อวางแผนชีวิตในอนาคตได้อย่างมั่นใจ พร้อมให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
    และสามารถผ่อนคอนโดได้สบาย ๆ เพราะชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี**
  • บริการลูกค้า: ปรึกษาก่อนกู้คอนโดกับกรุงศรีได้ง่าย ๆ ด้วยบริการจากพนักงานที่พร้อมตอบทุกข้อสงสัยให้ลูกค้าด้วยใจ ยินดีให้คำแนะนำและตอบคำถามเกี่ยวกับการกู้สินเชื่อคอนโด สินเชื่อซื้อบ้านคู่เพื่อนแบบครบถ้วน รวมไปถึงบริการอื่น ๆ เกี่ยวกับสินเชื่อที่พักอาศัย สามารถเพื่อสอบถามได้โทร 1572 ในทุกวันทำการ
* รับสิทธิลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 20% เมื่อเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
** ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี​
 

มองหาสินเชื่อคอนโดที่ใช่ ยังไงก็ต้องมาที่ธนาคารกรุงศรี

ธนาคารกรุงศรี เราเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมมอบผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างสินเชื่อที่พักอาศัย สำหรับกู้ซื้อคอนโดมิเนียม ด้วยสิทธิประโยชน์ทางการเงินสูงสุด พร้อมอนุมัติวงเงินการกู้ซื้อที่ 100% ของราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อการตกแต่ง และให้อัตราดอกเบี้ยต่ำชำระได้นาน หากสนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้กู้ ค่าธรรมเนียม รวมถึงช่องทางการสมัครสินเชื่อได้ที่ด้านล่างนี้

สมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรีคอนโด

กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

This site is protected by reCAPTCHA and the Google
Privacy Policy and Terms of Service apply.

รายละเอียด

  • บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
  • พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
  • ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
  • ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ ซึ่งสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ได้
ประเภท จำนวนเงินที่เรียกเก็บ ช่องทางการชำระเงิน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน
(วงเงินกู้รวมต่อหลักประกันไม่เกิน 100 ล้านบาท)
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ฟรี ! 3,210 บาท ต่อหลักประกัน
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
หากเกินกว่านี้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบ
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
เบี้ยประกันอัคคีภัย
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ตามอัตราของบริษัทประกัน ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
เพื่อสาขาทำการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทประกันภัย
ค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ
ค่าอากรแสตมป์
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
คิด 0.05% ของวงเงินกู้
(ไม่เกิน 10,000 บาท)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
ค่าจดจำนอง
(เรียกเก็บ ณ วันจดจำนองที่กรมที่ดิน)
คิด 1% ของทุนจำนอง  
ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด
(เมื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่นภายใน 3 ปีแรก นับจากวันทำสัญญา)
คิด 3% ของยอดหนี้คงเหลือ -

ช่องทางการสมัคร

สาขาทั่วประเทศ (ในวันทำการ)

ค้นหาสาขา

ติดต่อทีมสินเชื่อบ้านกรุงศรี

โทรศัพท์ : 1572

เอกสารประกอบการสมัคร

  • สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ หย่า/ ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
  • สำเนาใบประกอบวิชาชีพที่ถือไม่น้อยกว่า
    2 ปี และยังไม่หมดอายุ สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ(ถ้ามี)
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
  • หนังสือรับรองการทำงาน หรือสำเนาสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด) (สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • หนังสือรับรองโบนัสประจำ (ถ้ามี)
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (50 ทวิ และ ภงด.90/91) พร้อมใบเสร็จการชำระภาษีย้อนหลัง 2 ปี
 กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนา ภ.พ.30 พร้อมใบเสร็จ (ถ้ามี)
  • สำเนา ภ.พ.20 (ถ้ามี)
  • สำเนาบริคณห์สนธิ ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ขนาดเท่าตัวจริงทุกหน้า)
  • ใบอนุญาตปลูกสร้าง / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ทด.13) หรือหนังสือสัญญาให้ที่ดิน (ทด.14 )
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และหลักฐานการจ่ายชำระเงินดาวน์ (ถ้ามี)
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน (กรณีถ้ามีสัญญาเงินกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอื่นและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ)
  • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป

ดาวน์โหลดเอกสาร

 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Platinum Developers ระหว่างวันที่ 1 may 68 - 30 may 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่หรือบ้านมือสอง) สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF

คำถามที่พบบ่อย

สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รอบรู้เรื่องบ้าน

เงินเดือน 15,000 อยากมีบ้านในฝัน กู้สินเชื่อบ้านได้ไหม

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content fz-16px-all-i">&ldquo;มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ จงมักน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน&rdquo; ขอยกคำกลอนที่ได้ยินกันมานานให้เพื่อน ๆ ได้คิดกันนะครับว่า ถึงแม้เราจะมีเงินน้อย รายได้น้อยกว่าคนอื่น ก็อย่าน้อยใจในโชควาสนา เพราะถึงมีเงินเดือนน้อย ถ้ารู้จักใช้อย่างพอเพียงเราก็สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขนะครับ เพื่อน ๆ ที่มีรายได้จำกัดคงจะเคยสงสัยกันใช่ไหมว่าถ้าเรามีเงินเดือน 15,000-20,000 บาท จะซื้อบ้านได้ไหม ต้องบอกกันก่อนเลยว่าได้ครับ และเพื่อเป็นการทำให้ทุกคนเห็นภาพวันนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมเคล็ดลับดีๆ ที่คุณสามารถมีวิมานหลังน้อยเป็นของตัวเองได้มาฝากทุกคนกัน รวม 4 เคล็ดลับที่จะช่วยตอบคำถามที่ว่าถ้าเงินเดือน 15,000-20,000 บาท ในยุคหลังสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด จะซื้อบ้านได้ไหม?</div><div class="ar-category"><div class="accordion" id="ar-drop"><div class="row"><div class="col-12"><div id="ar-category"><div class="card bg-transparent"><div aria-expanded="false" class="card-header arrow collapsed" data-target="#collapse-26012" data-toggle="collapse" id="heading26012"><h3><button class="btn btn-link btn-ar-drop" type="button">เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ</button></h3></div><div class="collapse" data-parent="#ar-drop" id="collapse-26012" style=""><div class="card-body"><ul class="ar-ul"> <li><a href="#title-1">เคล็ดลับที่ 1 คำนวณหาจำนวนเงินที่เราจะมีกำลังในการกู้ซื้อบ้านได้</a></li> <li><a href="#title-2">เคล็ดลับที่ 2 หาโครงการบ้านที่อยู่ในวงเงินที่เราสามารถกู้ได้เมื่อคำนวณจากเคล็ดลับที่ 1</a></li> <li><a href="#title-3">เคล็ดลับที่ 3 ทำประวัติเครดิตบูโรของเราให้ดี</a></li> <li><a href="#title-4">เคล็ดลับที่ 4 หาผู้กู้ร่วม</a></li></ul></div></div></div></div></div></div></div></div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"><h2>เคล็ดลับที่ 1 คำนวณหาจำนวนเงินที่เราจะมีกำลังในการกู้ซื้อบ้านได้</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">จากหลักของการกู้ทั่วไปมีอยู่ว่า &ldquo;ผู้กู้สามารถแบกรับภาระได้ไม่เกิน 40% ของรายได้เท่านั้น&rdquo;<br /><br />ตัวอย่างเช่น ผู้กู้มีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนบ้านสูงสุดได้ 15,000 x 40% = 6,000 บาท<br /><br />ซึ่งก็คือหากผู้กู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนจะสามารถผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท ที่สำคัญเราต้องไม่มีหนี้สินผ่อนชำระสินค้าอื่น ๆ หากเรามีหนี้สินอื่น ๆ เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 5,000 บาท ก็ทำให้ผู้กู้เหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง (6,000 &ndash; 5,000) เหลือเพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น<br /><br />ถ้าเราสามารถผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท จะสามารถกู้ซื้อบ้านได้วงเงินตามนี้<br />&nbsp;<div class="table-responsive"><!--icon click show on mobile--><div class="d-block d-md-none box-hand_touch"><i class="fa fa-arrows hand_touch">&zwnj;</i></div><!--End icon click show on mobile--><table class="table table-scrollable"> <thead> <tr> <th style="text-align: center;"><strong>ระยะเวลาในการผ่อนชำระ</strong></th> <th style="text-align: center;"><strong>วงเงินที่สามารถกู้ได้</strong></th> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td style="text-align: center;">15 ปี</td> <td style="text-align: center;">647,000 บาท</td> </tr> <tr> <td style="text-align: center;">20 ปี</td> <td style="text-align: center;">744,000 บาท</td> </tr> <tr> <td style="text-align: center;">25 ปี</td> <td style="text-align: center;">811,000 บาท</td> </tr> <tr style="background-color:#ece9e9;"> <td style="text-align: center;">30 ปี</td> <td style="text-align: center;">858,000 บาท</td> </tr> <tr> <td style="text-align: center;">35 ปี</td> <td style="text-align: center;">889,000 บาท</td> </tr> </tbody></table></div><em>โดยคิดจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5</em></div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-2"><h2>เคล็ดลับที่ 2 หาโครงการบ้านที่อยู่ในวงเงินที่เราสามารถกู้ได้เมื่อคำนวณจากเคล็ดลับที่ 1</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">สมมุติว่า เราเลือกจะผ่อนชำระที่ 30 ปี จะสามารถกู้ได้ 858,000 บาท ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีโครงการที่ราคาต่ำกว่าล้านอยู่หลายโครงการเลย เช่น คอนโดแถบชานเมือง หรือในแถบปริมณฑลก็ยังมีราคาไม่ถึงล้านอยู่เยอะ หรือถ้าหากอยู่ที่ต่างจังหวัดก็ยิ่งมีโครงการราคาต่ำกว่าล้านมากมาย หรือถ้าเพื่อน ๆ สนใจเป็นบ้านมือสองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะบ้านมือสองสภาพดีราคาไม่ถึงล้านก็มีอยู่ในตลาดมือสองให้เลือก (<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/how-to-handle-home-loan" target="_blank">อ่านวิธีการจัดการเงินกู้บ้านแบบยิ้มได้ คลิกที่นี่</a>)</div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-3"><h2>เคล็ดลับที่ 3 ทำประวัติเครดิตบูโรของเราให้ดี</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ถ้าเพื่อน ๆ มีหนี้<a class="Text-link" href="https://www.krungsriconsumer.com/credit-card" target="_blank"><span>บัตรเครดิต</span></a> บัตรกดเงินสด และบัตรผ่อนชำระต่าง ๆ หนี้สินของบัตรต่าง ๆ ตรงนี้จะไปแสดงที่เครดิตบูโรของเรา หากมีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ไม่ตรงต่อเวลา ผิดนัดจ่ายหนี้กับธนาคาร หรือเบี้ยวหนี้ไม่จ่ายเลย เครดิตบูโรก็จะขึ้น Blacklist ซึ่งหมายความว่า เมื่อเราไปยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคารแล้วทางธนาคารไปตรวจสอบเครดิตบูโรของเราก็จะเห็น Blacklist ของเรา ซึ่งอาจทำให้กู้ซื้อบ้านได้ยากขึ้น เพราะธนาคารก็ไม่มั่นใจว่า เราจะจ่ายค่างวดให้เค้าได้หรือไม่ และยังมีอีกกรณีหนึ่งหากเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะเกินไป ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้ติด Blacklist แต่เมื่อธนาคารทำการประเมินรายได้ของเราแล้วปรากฏว่า แค่ยอดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนสำหรับบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดแต่ละใบของเราในแต่ละเดือน ก็ไม่พอที่จะส่งค่างวดสำหรับ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans" target="_blank">สินเชื่อบ้าน</a>แล้ว แบบนี้ธนาคารก็คงอนุมัติให้ผ่านยาก ดังนั้น ควรทำประวัติเครดิตบูโรของเราให้ดี เช่น ชำระหนี้ให้ตรงต่อเวลา ไม่ผิดนัดจ่ายหนี้ ไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดมากเกินไป หรือทางที่ดีที่สุดคือไม่ก่อหนี้เลย เหมือนคำพระที่ว่า &ldquo;การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ&rdquo; (<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/how-to-choose-the-right-home-loan" target="_blank">อ่านวิธีเลือกสินเชื่อบ้านให้ผ่อนได้สบาย ๆ ได้ที่นี่</a>)</div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-4"><h2>เคล็ดลับที่ 4 หาผู้กู้ร่วม</h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ในกรณีที่ฝันว่าอยากจะมีวิมานในฝันที่หลังใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ลำพังแค่เงินเดือน 15,000-20,000 อาจจะได้ยอดเงินกู้ไม่เพียงพอ เราก็จำเป็นต้องหาผู้กู้ร่วม เพื่อเพิ่มวงเงินกู้ให้มากขึ้น ในกรณีที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแต่กู้คนเดียวไม่ผ่านหรือรายได้ไม่พอ การกู้ร่วมก็เป็นทางออกหนึ่งของปัญหาที่นิยมเลือกใช้กันมาก โดยความหมายของผู้กู้ร่วม หมายถึง ลูกหนี้ร่วม ในทางกฎหมายลูกหนี้ร่วมจะต้องรับผิดชอบหนี้เป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น และในบางสถาบันการเงินจะกำหนดให้ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้ในฐานะที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันหรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตรและสามีภรรยา หรือถ้าแต่งงานกันแล้วและยังไม่ได้จดทะเบียน ผู้กู้ร่วมก็ต้องแสดงหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ เช่น ทะเบียนบ้านที่แสดงว่าปัจจุบันอยู่ด้วยกัน หรือถ้ามีบุตรก็ต้องแสดงใบเกิดที่ระบุชื่อพ่อแม่<br /><br />ในการซื้อบ้านแบบการกู้ร่วมสามารถทำได้ 2 แบบ คือ<ol> <li>กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของคน ๆ เดียว แต่เวลากู้ยืมใช้คนหลายคนมากู้ร่วม</li> <li>การกู้ร่วมโดยใส่ชื่อผู้กู้ทุกคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม</li></ol></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ซึ่งการกู้ร่วมนั้น สถาบันการเงินจะพิจารณารายได้ของทุกคนที่ขอกู้ร่วม โดยจะหักภาระค่าใช้จ่ายของทุกคน หลังจากนั้นก็ดูว่า เหลือเงินที่จะสามารถผ่อนชำระได้ต่อเดือนเท่าไหร่ แล้วพิจารณาให้สินเชื่อไปตามสัดส่วน ซึ่งจะทำให้เพื่อน ๆ ที่มีผู้กู้ร่วม สามารถกู้วงเงินได้สูงขึ้นมากอีกพอสมควร</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความที่เราได้นำเสนอไปคงจะช่วยตอบคำถามที่ว่าเงินเดือน 15,000-20,000 บาทซื้อบ้านได้ไหม? หากได้ลองทำตามเคล็ดลับที่ได้แนะนำไปในข้างต้น มั่นใจเลยว่าพนักงานเงินเดือนน้อย ๆ ก็สามารถฝันที่จะมีบ้านหลังน้อยไว้เป็นที่พักผ่อนได้เหมือนกับทุก ๆ คน อย่างแน่นอน</div></div>
ks-coach
3 Min Read
share
รอบรู้เรื่องบ้าน

กู้เงินซื้อคอนโดต้องรู้อะไรบ้าง สรุป 5 ข้อควรรู้ก่อนกู้

<div>คอนโดก็เหมือนบ้านในฝันที่เต็มไปด้วยความหรูหราสะดวกสบาย แต่ในปัจจุบันการซื้อคอนโดก็มีมูลค่าสูง ดังนั้นการจะเป็นเจ้าของคอนโดจึงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนการเงินให้ดี เพราะการซื้อคอนโด เป็นทรัพย์สินที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และมีความยุ่งยากไม่ต่างจากการซื้อบ้าน ถ้าใครซื้อด้วยเงินสดได้ก็คงสบายตัว แต่ถ้ายังไม่มีเงินก้อน หลายคนก็เลือกที่จะกู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโด เพราะอยากนำเงินไปลงทุนให้เงินงอกเงยมากกว่า<br /> <br /> ซึ่งการขอกู้ซื้อคอนโดกับธนาคารมีหลายเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้อย่างละเอียด วันนี้เราจึงนำ 5 ข้อควรรู้ก่อนการซื้อคอนโดมาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้คุณมีคอนโดในฝัน ไปพร้อมกับความมั่นคงทางการเงิน<br /> &nbsp; <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2>ก่อนกู้ธนาคารซื้อคอนโด</h2> </div> <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. สถานะการเงิน</strong></span></h3> เพราะการกู้ซื้อคอนโด คือหนี้สินระยะยาว ดังนั้น ความมั่นคงทางการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งความมั่นคงนี้ มาจากอาชีพการงาน รายได้แต่ละเดือน ธุรกิจและเศรษฐกิจ ที่คุณต้องคิดไปถึงอนาคต เพราะถ้าเกิดมีปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมา อาจกระทบถึงความสามารถในการผ่อนชำระตามข้อตกลงของธนาคารได้<br /> &nbsp; <h4>1.1 อาชีพการงาน</h4> อาชีพการเงิน เป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึงค่าผ่อนคอนโดด้วย ดังนั้น ก่อนการซื้อคอนโดสำหรับมือใหม่ คุณต้องมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง ต้องมีอาชีพการงานในอนาคตที่ไม่สั่นคลอน เช่น บริษัทรายได้ไม่ดี งดการจ่ายเงินเดือน หรือร้ายแรงสุดคือโดนไล่ออก ทำให้คุณขาดรายได้สำหรับมาใช้จ่าย และไม่มีเงินมากพอมาผ่อนคอนโดกับธนาคารตามระยะเวลาที่กำหนด<br /> &nbsp; <h4>1.2 รายได้แต่ละเดือน</h4> รายได้ คือสิ่งที่ได้รับจากการทำงาน ถ้าหากคุณมีรายได้ที่ชัดเจน จะทำให้คุณวางแผนการเงิน สำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการซื้อคอนโด ที่ต้องผ่อนจ่ายทุกเดือน หากเดือนใดมีปัญหา แสดงว่าคุณอาจจะต้องผิดนัดการชำระค่าผ่อนคอนโดด้วย<br /> &nbsp; <h4>1.3 ธุรกิจ</h4> ปัจจุบันมีธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งถ้าธุรกิจของคุณ คือส่วนที่ไม่ได้สร้างรายได้ให้เหมาะสมกับรายจ่าย ผลกระทบก็จะส่งถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมถึงราคาผ่อนของการซื้อคอนโดหลังจากที่คุณได้มีการกู้เงินซื้อคอนโดแล้ว<br /> &nbsp; <h4>1.4 เศรษฐกิจ</h4> ความผันผวนในเศรษฐกิจ คือสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่กลับส่งผลกระทบต่อคุณได้โดยตรง ซึ่งถ้าเศรษฐกิจไม่ดีหรือชะลอตัว ราคาสินค้าต่าง ๆ ก็จะแพงขึ้นโดยเฉพาะสินค้าที่มีต้นทุนการผลิต เมื่อสินค้าต่าง ๆ มีราคาแพงก็จะส่งผลให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ถ้าหากคุณต้องการซื้อคอนโดในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ คุณจะพบว่าคอนโดก็จะมีราคาที่สูงขึ้นมากกว่าปกติ<br /> &nbsp;<br /> การผ่อนคอนโดไม่ใช่แค่ปีเดียวแล้วจบ คุณยังต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อคอนโด หรือตัดสินใจกู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโดคุณควรรู้ขีดจำกัดการกู้ธนาคารของคุณในการผ่อนสูงสุดต่อเดือนก่อน<br /> &nbsp; <div style="width:100%; clear:both; padding:20px; font-size:16px; text-align:center; border: solid 3px #FD0;"><strong>&ldquo;ความสามารถในการชำระหนี้สูงสุดต่อเดือน = รายได้ต่อเดือน x 40%&rdquo;</strong></div> &nbsp;<br /> เมื่อคุณทราบความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ จะทำให้คุณวางแผนการเงินได้ถูก เพราะสภาพคล่องทางการเงินสำคัญมากสำหรับการผ่อนคอนโด เพราะถ้าคุณผ่อนไม่ไหวจนถูกขายทอดตลาด เงินที่คุณจ่ายไปก่อนหน้านี้อาจจะเสียเปล่า รวมถึงยังมีหนี้สินที่ตามมาและเสียเครดิตในอนาคตอีก<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. ข้อมูลคอนโดในฝัน</strong></span></h3> นอกจากการตรวจสอบสถานะการเงินของคุณแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือการเลือกคอนโดในฝัน ซึ่งคอนโดแต่ละที่ จะนำเสนอโปรโมชั่น หรือส่วนลดที่น่าสนใจ เช่น ซื้อคอนโดแบบเงินดาวน์ 0% คอนโดที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบครัน หรือโปรผ่อนคอนโดสบาย ๆ เดือนละ 1,990 บาท เป็นต้น ซึ่งหากถูกใจ การดำเนินการกู้ซื้อคอนโดก็จะเกิดขึ้น ดังนั้นคุณจะต้องเตรียมเงินให้พร้อมใน 2 ส่วน ดังนี้ <ul> <li><strong>เงินจอง</strong> ซึ่งเป็นเงินที่คุณจะต้องจ่ายให้กับคอนโด เพื่อบอกว่าคุณจองห้องนี้และมีโอกาสจะซื้อในเวลาอันใกล้</li> <li><strong>เงินทำสัญญา</strong> ถ้าคอนโดในฝันของคุณยังสร้างไม่เสร็จคุณต้องจ่ายเงินทำสัญญาและผ่อนดาวน์เป็นงวด ๆ ให้กับทางคอนโด</li> </ul> ถ้าคุณทำเรื่องกู้ซื้อคอนโดกับธนาคาร สิ่งแรกที่ธนาคารจะประเมินคือ ความน่าเชื่อถือของคอนโด ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่มักจะดูส่วนนี้เป็นหลักในการพิจารณาปล่อยเงินกู้ ถ้ายิ่งน่าเชื่อถือการขอกู้จะง่ายขึ้น ซึ่งโดยปกติธนาคารจะปล่อยกู้โดยดูความสามารถในการผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ ซึ่งแนะนำว่า ราคาผ่อนคอนโดแต่ละเดือนควรอยู่ที่ประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมดต่อเดือน<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. วงเงินกู้</strong></span></h3> ในการขอกู้เงินกับธนาคารเพื่อซื้อคอนโด ธนาคารจะพิจารณาจากรายได้สุทธิที่ถูกหักลบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นออกหมดแล้ว ไม่ใช่รายได้ที่คุณได้รับต่อเดือน เพื่อแสดงถึงเงินที่คุณสามารถผ่อนให้กับธนาคารจริง ๆ ซึ่งมักจะยึดอัตรา 40% ของรายได้ โดยนำมาคำนวณกับอัตราส่วนจำนวนผ่อนต่อวงเงินกู้สูงสุด คือ 1,000,000 / 7,000 บาท (หลักการคิดนี้ใช้ระยะเวลาผ่อนประมาณ 30 ปี) ดังนั้น สูตรคำนวณวงเงินกู้อย่างคร่าว คือ<br /> &nbsp; <div style="width:100%; clear:both; padding:20px; font-size:16px; text-align:center; border: solid 3px #FD0;"><strong>&ldquo;ยอดที่กู้ได้สูงสุด = ความสามารถในการชำระหนี้สูงสุดต่อเดือน x (1,000,000 / 7,000)&rdquo;</strong></div> &nbsp;<br /> <br /> เมื่อคุณได้ยอดที่สามารถกู้ได้สูงสุด คุณจะรู้ว่าความสามารถในการผ่อนคอนโดได้เดือนละเท่าไหร่ที่คุณสามารถผ่อนไหว โดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันของคุณ<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. เครดิตการเงิน</strong></span></h3> เครดิตการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ธนาคารจะใช้ดูเพื่อวิเคราะห์ว่าคุณมีประวัติหนี้ดี หนี้เสียอย่างไรบ้าง มีพฤติกรรมทางการเงินที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ซึ่งธนาคารจะพิจารณาจากประวัติการผ่อนชำระในเครดิตบูโร<br /> <br /> เช่น คุณทำเรื่องผ่อนสินค้าทั้งหมด 6 งวด พฤติกรรมการจ่ายเงินของคุณเป็นยังไง จ่ายตามเวลาหรือมีล่าช้า แต่เครดิตการเงินของคุณไม่ได้ดูเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ธนาคารตรวจสอบดู <ul> <li>การเสียภาษีอย่างถูกต้องทุกปี</li> <li>ไม่มีประวัติการค้างชำระหนี้ เพราะบ่งบอกว่าคุณมีกำลังในการผ่อน</li> <li>ทำงานมาอย่างน้อย 2 ปี</li> <li>เงินในบัญชีมีความคล่องตัว</li> <li>บริษัทมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง</li> </ul> ข้อที่กล่าวมาในเบื้องต้น เป็นสิ่งที่ธนาคารจะใช้ประกอบการพิจารณาเงินกู้ในการซื้อคอนโดให้แก่คุณ ถ้าใครมีปัญหา เช่น ติดเครดิตบูโร เงินขาดสภาพคล่อง ให้คุณรีบแก้ไขก่อนทำเรื่องกู้ประมาณ 6-12 เดือน เพื่อให้ธนาคารแน่ใจว่าคุณสามารถชำระเงินได้ตามกำหนด<br /> &nbsp; <h3 class="mb-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>5. อัตราดอกเบี้ย</strong></span></h3> สำหรับอัตราดอกเบี้ยในการกู้ซื้อคอนโดส่วนใหญ่จะมีโปรโมชันของธนาคาร โดยอัตราดอกเบี้ยจะแบ่งเป็น <ul> <li><strong>อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate)</strong> ซึ่งมีทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรก 1-5 ปีแรก ต่อจากนั้นจะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรืออัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ โดยอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารไม่เท่ากัน</li> <li><strong>อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate)</strong> คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามต้นทุนของสถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินจะประกาศออกมาเป็นคราว ๆ ไป เช่น อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เช่น MLR, MOR, MRR ซึ่งมีความผันผวน อาจทำให้เราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่ายในอนาคตจะประมาณเท่าไหร่</li> </ul> <br /> ซึ่งการที่คุณต้องผ่อนคอนโดในอัตราดอกเบี้ยที่คาดคะเนไม่ได้นี้จะส่งผลต่อแผนการเงินของคุณโดยตรง ซึ่งมี 2 แบบคือ <ul> <li>นำเงินมาโปะเงินต้นให้ลดลง ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยลดลงด้วย</li> <li>เมื่อผ่อนไปได้ 3 ปี คุณสามารถ Re-Finance เพื่อขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่ที่ให้ข้อเสนอดอกเบี้ยที่ดีกว่า</li> </ul> <br /> เมื่อคุณอยาก<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/condominium" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'Text-Click','event_action':'before-buying-condo','event_label':'Condominium'});" target="_blank">กู้ซื้อคอนโด</a> แสดงว่าคุณจะต้องมีแผนการเงินในระยะยาวแล้ว เพื่อที่จะรองรับความไม่แน่นอนของอนาคต เพราะอัตราดอกเบี้ยคือภัยเงียบ ถ้าคุณไม่ระวังให้ดีคุณอาจเป็นหนี้ก้อนโต <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/calculator/home-calculator/repayment-amount-calculator" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'Text-Click','event_action':'before-buying-condo','event_label':'plan-to-buy-a-home'});" target="_blank">การวางเเผนเพื่อคอนโดในฝัน</a>ของคุณจึงสำคัญ เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของคอนโดในฝันไปพร้อม ๆ กับความคล่องตัวทางการเงิน<br /> &nbsp; <center><a href="https://www.krungsri.com/th/calculator/home-calculator/repayment-amount-calculator" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'Banner-Click','event_action':'before-buying-condo','event_label':'plan-to-buy-a-home'});" target="_blank"><img alt="การวางเเผนเพื่อคอนโดในฝัน" class="img-fluid" src="/getmedia/b0b5f0b6-79b4-4622-874b-d37e5848d337/home-loan-calculator-banner-tiein.jpg.aspx" style="filter: drop-shadow(1px 2px 4px rgba(35, 18, 19, 0.2));border-radius: 3px;" /></a></center> <br /> บทความโดย<br /> ปริตา ธิติปรีชาพล<br /> กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล<br /> ธนาคารกรุงศรีอยุธยา</div> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
4 Min Read
share
รอบรู้เรื่องบ้าน

ซื้อคอนโดมือสอง ดีจริงหรอ และจะคุ้มไหมนะ?

ซื้อคอนโดมือสองคุ้มไหม? คำถามยอดฮิตที่หลายคนกำลังสงสัย เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้วคอนโดมือหนึ่ง และมือสองแทบไม่มีความแตกต่างกันเลย ถ้าพูดในมุมของทำเลที่ตั้งหรือราคา บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/mortgages/house-vs-condo-for-gen-y" target="_blank">ซื้อคอนโด</a>มือหนึ่งไปเลยนะ แต่ก็ต้านกระแสเทรนด์การซื้อคอนโดมือสองไว้ไม่ไหวจริง ๆ ถ้ามองในมุมของการซื้อคอนโดมือสองก็ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใครหลาย ๆ คนอยู่ไม่น้อย ทั้งตัวเลือกที่เยอะกว่า ราคาที่สบายกระเป๋ากว่า แต่นั่นก็ยังไม่หมดเพราะคำถามที่ตามมาคือ ซื้อคอนโดมือสองจะต้องทำอย่างไร? ต่างจากมือหนึ่งยังไง และจะยุ่งยากไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบทุกประเด็นที่คุณกำลังสงสัย <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">คอนโดมือหนึ่งต่างจากคอนโดมือสองยังไง?</span></h2> </div> ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมสักห้องเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่ต้องยื่นกู้สินเชื่อคอนโด อีกทั้งภาระการผ่อนอีก 10-20 ปี ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งคอนโดมือหนึ่ง และคอนโดมือสอง ต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป<br /> &nbsp; <center><img alt="คอนโดมือหนึ่งต่างจากคอนโดมือสองยังไง?" class="img-fluid" src="/getmedia/1ad4ff1b-bf5f-478b-b266-a706e1eb040f/is-secondhand-condo-good-01.jpg.aspx" /></center> <br /> พอจะเห็นความแตกต่างจากตารางข้างบนกันแล้วใช่ไหม หัวข้อถัดไปเราจะพาไปเจาะลึกในแต่ละจุดกันว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. ซื้อคอนโดมือสอง ได้คอนโดราคาถูก</strong></span></h3> แน่นอนว่าไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะคงเป็นข้อได้เปรียบอันดับต้น ๆ ที่ผู้ซื้อจะได้รับ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความเสื่อมสภาพตามระยะเวลาของคอนโดที่เคยมีผู้อยู่อาศัยมาแล้ว หรือถูกสร้างขึ้นมาสักพักแล้ว จึงทำให้คอนโดมือสองไม่ได้ใหม่เอี่ยมแกะกล่อง ราคาขายจึงย่อมถูกกว่าคอนโดมือหนึ่งที่เพิ่งมีการก่อสร้าง อีกทั้งยังไม่มีผู้ใดเคยเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งถ้าหากเรามีงบประมาณที่จำกัดละก็ การมองหาคอนโดมือสองก็เป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. คอนโดมือสองทำเลทอง ราคาห้องจับต้องได้</strong></span></h3> แน่นอนว่าผู้ซื้อย่อมมองหาทำเลที่ตั้งคอนโดดี ๆ กันทั้งนั้น แต่ถึงกระนั้นการซื้อคอนโดมือหนึ่งที่ตั้งในทำเลที่เหมาะสมและดี ราคาก็กระโดดไปหลายสิบล้านเข้าแล้ว แต่ถ้าหากเป็นคอนโดมือสองราคาก็จะไม่พุ่งกระโดดแบบคอนโดมือหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถเลือกทำเลที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ซื้ออีกด้วย ทั้งทำเลดี ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก<br /> <br /> ต่อเนื่องมาจากเหตุผลจากข้อแรกที่กล่าวไปข้างต้นที่ว่า คอนโดมือสองมีความเสื่อมสภาพตามกาลเวลา และมีผู้อาศัยมาก่อนหน้า ทำให้ราคาถูกลง แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าคอนโดมือสองทุกที่สภาพจะเสื่อมโทรม เพราะคอนโดมือสองบางที่ เจ้าของแทบไม่เคยอาศัยอยู่เลยด้วยซ้ำ บ้างก็ซื้อแล้วต้องย้ายถิ่นฐานกะทันหัน เลยจำเป็นที่จะต้องขาย หรือบ้างก็ซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่าโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้ซื้อต่อรายแรกก็เท่ากับว่าเหมือนได้คอนโดใหม่เอี่ยมแกะกล่องเลย แถมอยู่ในทำเลที่ใช่<br /> &nbsp; <center><img alt="ได้เห็นคอนโดจริงก่อนซื้อคอนโดมือสอง" class="img-fluid" src="/getmedia/82222088-8314-4682-97a7-4635518667c7/is-secondhand-condo-good-02.jpg.aspx" /></center> <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. ได้เห็นคอนโดจริงก่อนซื้อคอนโดมือสอง</strong></span></h3> ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของการ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/mortgages/know-before-invest-condo" target="_blank">ซื้อคอนโด</a>มือสองก็คือได้เห็นคอนโดจริง ในขณะเดียวกันคอนโดมือหนึ่งหลายที่จะอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจะมีเพียงแค่ภาพเสมือน ซึ่งผู้ซื้อจะไม่สามารถเห็นห้องจริง หรือสภาพแวดล้อมจริง เช่น วิวนอกหน้าต่าง เป็นต้น เนื่องจากช่วงที่โครงการปล่อยขายมักจะเป็นแบบแปลน กับตำแหน่งที่ดิน แต่ถ้าเป็นคอนโดมือสอง เราจะเห็นข้างในห้องในสภาพที่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งนั่นจะช่วยประกอบการตัดสินใจในการซื้อของเราได้ <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. ได้เห็นสภาพแวดล้อมก่อน แบบไม่ต้องเดา </strong></span></h3> ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการซื้อคอนโดมือสองคือ เรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อใดที่เราเข้าไปเช็กสภาพห้อง หรือขอดูห้องเพื่อประกอบการตัดใจก่อนการซื้อ เราจะรู้ได้ทันทีว่า สภาพการเป็นอยู่จริงของคนในคอนโดเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น มีการส่งเสียงดังรบกวนไหม ทิ้งขยะไม่เป็นที่หรือเปล่า และสิ่งที่สำคัญเลยคือ &ldquo;สิ่งแวดล้อม&rdquo; ที่เราจะเห็นสภาพแวดล้อมโดยรวมของคอนโดว่าในละแวกนั้นเป็นอย่างไร ปลอดภัยมากน้อยเพียงใด มีรถประจำทางผ่านมาไหม หรือสะดวกต่อการซื้อของใช้ในบ้านหรือเปล่า<br /> <br /> เพราะบางทีคอนโดมือหนึ่งอาจจะคาดเดาได้ยาก เนื่องจากยังไม่มีผู้เข้าอยู่อาศัยจริง <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>5. ซื้อคอนโดมือสอง เข้าอยู่ได้ทันที แบบไม่ต้องรอ </strong></span></h3> มาถึงข้อดีข้อสุดท้ายของการซื้อคอนโดมือสองกันแล้ว นั่นก็คือ ผู้ซื้อสามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที หรือที่หลาย ๆ คนคุ้นหูกันคือ &ldquo;พร้อมอยู่&rdquo; โดยที่คอนโดมือสองถ้าเป็นห้องที่สร้างเสร็จได้ไม่กี่ปี สภาพห้องส่วนใหญ่จะเสร็จสมบูรณ์มาแล้ว และที่ดีไปกว่านั้นก็คือบางห้องได้มีการตกแต่งห้องอย่างสวยงามพร้อมเฟอร์นิเจอร์ให้อีกด้วย ถือได้ว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ซื้อห้องแถมเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ ถึงแม้ว่าสมัยนี้คอนโดมือหนึ่งจะมีแบบพร้อมอยู่แล้วบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีทุกห้องและทุกที่เสมอไป แต่ถ้าเป็นคอนโดมือสองล่ะก็ส่วนมากพร้อมย้ายเข้าได้เลย เหมาะมาก ๆ กับคนที่ต้องการย้ายเข้าแบบทันท่วงที ไม่ต้องเสียเวลาอีกหลายเดือน<br /> &nbsp; <center><img alt="อยากซื้อคอนโดมือสองราคาถูก ต้องทำยังไง?" class="img-fluid" src="/getmedia/03d58b02-e045-4b77-84eb-8001f7a94a29/is-secondhand-condo-good-03.jpg.aspx" /></center> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">อยากซื้อคอนโดมือสองราคาถูก ต้องทำยังไง? </span></h2> </div> ซื้อ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/mortgages/buy-condo" target="_blank">คอนโดมือสอง</a>ย่อมได้ราคาที่ถูกกว่าคอนโดมือหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าเลือกไม่ดีก็อาจจะเจอคอนโดมือสองที่ราคาพุ่งเทียบเท่ากับคอนโดมือหนึ่งก็ได้ ดังนั้นเพื่อความคุ้มค่า จะต้องเลือกคอนโดมือสองอย่างมีชั้นเชิงนะทุกคน จึงจะได้คอนโดมือสองที่ทั้งราคา และสภาพห้องสมน้ำสมเนื้อ ส่วนเลือกซื้อคอนโดมือสองอย่างไร ถึงจะได้ราคาที่ถูก เรามีทริคดี ๆ มาฝาก&hellip; <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>1. เช็กที่ทำเลรอบนอกใจกลางเมือง </strong></span></h3> ย่าน (CBD: Central Business District) ถือเป็นย่านธุรกิจเพราะฉะนั้นราคาจะพุ่งสูงมาก ถึงแม้จะเป็นคอนโดมือสองก็ตาม แต่ถ้าพิจารณารอบนอกใจกลางเมืองราคาก็จะดรอปลงมาเกือบครึ่งต่อครึ่งเลย ดังนั้นเราจะได้คอนโดมือสองในราคาที่ถูกกว่าก็ต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่เลือกด้วย <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>2. เลือกชั้น และตำแหน่งห้องที่ไม่หรูหรามาก </strong></span></h3> แน่นอนว่าถ้าเป็นคอนโดมือสองที่มีวิวที่สวยตำแหน่งห้องที่ดีหน่อย ชั้นที่สูงหน่อย เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ราคาก็จะสูงแปรผันไปตามปัจจัยที่กล่าวมา แต่อีกมุมหนึ่งถ้าหากอยากได้ราคาที่ถูกลงก็ต้องแลกมาด้วยวิวที่ไม่ค่อยดีนัก อาจจะมีเสียงรบกวนบ้างบางครั้ง ชั้นไม่สูงมาก และแน่นอนว่าราคาสบายกระเป๋าแน่นอน<br /> &nbsp; <center><img alt="อยากได้คอนโดมือสองราคาถูก เลือกชั้นและตำแหน่งห้องที่ไม่หรูมาก" class="img-fluid" src="/getmedia/feb249d2-0a99-409f-a5e8-f5cfe934eee9/is-secondhand-condo-good-04.jpg.aspx" /></center> <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>3. เลือกจากห้องขายด่วน </strong></span></h3> เชื่อว่ากระแส<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/mortgages/know-before-invest-condo" target="_blank">ซื้อคอนโด</a>มือสองนี่มาแรงแซงทางโค้งมาก และหลายคนกำลังวางแผนที่จะซื้อคอนโดมือสองกัน หลายคนอาจจะเห็นตามเว็บไซต์ขายด่วนคอนโดมือสองอยู่บ่อย ๆ เพราะสาเหตุนี้เอง สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ขายมีความเร่งรีบที่จะขายออก อาจจะด้วยเหตุผลส่วนบุคคล เช่น ต้องรีบย้ายออก เพราะย้ายที่ทำงาน หรือมีความร้อนเงิน อยากได้เงินก้อนใหญ่ด่วน ด้วยความเร่งรีบที่เลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้ผู้ที่จะซื้ออย่างเรา ๆ สามารถต่อรองราคาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม <h3 class="mb-20px-all mt-20px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px;"><strong>4. เช็กราคาตามเว็บไซต์ขายคอนโด หรือกลุ่มซื้อขายตามช่องทางโซเชียล</strong></span></h3> วิธีคลาสสิคที่คนส่วนใหญ่มักทำกันเลยคือ เข้าไปเช็กราคาตามเว็บไซต์ประกาศขายคอนโดมือสอง ด้วยโลกสมัยนี้ขับเคลื่อนด้วยช่องทางออนไลน์ ก็จะมีเว็บไซต์เอเจนท์จำนวนมากที่รวมคอนโดมือสองน่าอยู่ ทำเลทอง ราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋ามาให้เราเปรียบเทียบราคาของแต่ละที่อย่างเห็นได้ชัด<br /> <br /> &ldquo;ยิ่งถ้าเป็นคอนโดที่เจ้าของขายเอง อาจจะสามารถต่อรองราคาเพิ่มเติมได้อีกด้วย&rdquo;<br /> <br /> แต่ว่าถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาสินเชื่อคอนโดดี ๆ มาให้กรุงศรีดูแลได้นะ<br /> <br /> <strong>สินเชื่อคอนโดกรุงศรี</strong> <ul class="mb-20px-all ml-20px-all"> <li>วงเงินกู้สูง</li> <li>ฟรี! ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท</li> <li><strong>สิทธิพิเศษ</strong> สำหรับผู้ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.25% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ</li> <li>ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/condominium" target="_blank">www.krungsri.com</a></li> </ul> และนี้ก็คือทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้คุณซื้อคอนโดมือสองราคาถูกได้ในราคาสบายกระเป๋า เพียงแค่สังเกตรายละเอียดเพียงเล็กน้อยก็ได้คอนโดมือสองในราคาที่ถูกกว่า ช่วยประหยัดเงิน และงบที่จะบานปลายไปได้อีกเยอะเลย <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style>
ks-coach
5 Min Read
share