สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก
1.99%*
ประเมินหลักประกัน
ฟรี**
ค่าจดจำนอง
ฟรี***
ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย
0.25%****
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.194% - 5.800% ต่อปี*

*สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 = 7.275% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน Fact sheet คลิก
**ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68)
***ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น
****เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สมัครสินเชื่อบ้านออนไลน์ กู้เงินซื้อบ้าน

สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง ประกอบกับกำลังมองหาสินเชื่อเพื่อการกู้ซื้อบ้านและอยู่ในช่วงของการพิจารณาว่าจะเลือกกู้ธนาคารซื้อบ้านที่ไหนดี หรือจะผ่อนบ้านกับธนาคารไหนดี มาที่ธนาคารกรุงศรี เราเป็นหนึ่งในสถาบันทางการเงินที่มีผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร ด้วยบริการกู้ซื้อบ้าน การขอสินเชื่อผ่อนบ้านกับธนาคารที่มีด้วยกันหลากหลายประเภท สมัครง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้คุณได้กู้เงินซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสองได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ คุณยังสามารถคำนวณการกู้สินเชื่อ คำนวณเงินผ่อนบ้าน คำนวณค่างวดบ้าน และคิดดอกเบี้ยบ้านเบื้องต้นได้ง่าย ๆ กับโปรแกรมคำนวณความสามารถในการกู้ คำนวณผ่อนบ้าน เพียงคลิกที่ “เครื่องมือคำนวณสินเชื่อ” แล้วกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นกดคำนวณได้เลย
 

3 เหตุผลในการเลือกสินเชื่อกู้ซื้อบ้านกับธนาคารกรุงศรี

อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ซึ่งที่ธนาคารกรุงศรี เราให้อัตราดอกเบี้ยกู้บ้านต่ำ ทั้งบ้านใหม่จากโครงการและบ้านมือสองที่จะซื้อต่อจากคนอื่น จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้ของคุณได้

เงื่อนไขของเงินกู้: เงื่อนไขของเงินกู้ เช่น วงเงินการกู้ ระยะเวลาการผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ที่ธนาคารกรุงศรีเราพร้อมให้วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่* หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง และผ่อนสบาย ๆ สามารถชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี**

*สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารสนับสนุน (Platinum Developers) (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)
**ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี

บริการลูกค้า: ธนาคารกรุงศรี เราพร้อมเป็นคู่คิดในการวางแผนขอสินเชื่อ ด้วยพนักงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกคนด้วยใจ ยินดีให้คำแนะนำและตอบคำถามทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการกู้สินเชื่อซื้อบ้าน การจำนองบ้านกับธนาคาร หรือขอลดดอกเบี้ยบ้าน สามารถเพื่อสอบถามได้โทร 1572 ในทุกวันทำการ


เลือกสินเชื่อบ้านที่ไหนดี? สินเชื่อจากธนาคารกรุงศรีคือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

ธนาคารกรุงศรี เรามีความมุ่งมั่นที่พร้อมมอบบริการและทางเลือกที่ดีที่สุด ให้สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านมือสอง หรือการจำนองบ้านกับธนาคาร เราจึงเลือกที่จะจัดสรรทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อบ้านของเรา โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลักสำคัญ เพื่อให้การกู้ซื้อบ้านในฝันเป็นจริงได้ ด้วยสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ หลากหลายรูปแบบจากธนาคารกรุงศรี

เข้ามาดูรายละข้อมูลเบื้องต้น ลักษณะเด่นจากบริการของเรา คุณสมบัติของผู้กู้ รวมถึงช่องทางการสมัครสินเชื่อได้ดังนี้
ขายบ้านต่อ แนะนำต่อ ได้หลายต่อ

สมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรี

กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

This site is protected by reCAPTCHA and the Google
Privacy Policy and Terms of Service apply.

รายละเอียด

  • บุคคลธรรมดา ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
  • พนักงานประจำที่มีอายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
  • ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
  • ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้และซึ่งสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ได้
  • อัตราดอกเบี้ยบ้านมือสองและบ้านมือหนึ่งต่ำ
  • วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่*
    หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง
  • อนุมัติเร็ว
  • สบายๆ กับการผ่อนชำระนานได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี)

*สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการ Top Group / Super Prime 1-A (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)

สิทธิพิเศษ สำหรับผู้ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.25% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ประเภท จำนวนเงินที่เรียกเก็บ ช่องทางการชำระเงิน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน
(วงเงินกู้รวมต่อหลักประกันไม่เกิน 100 ล้านบาท)
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
3,210 บาท ต่อหลักประกัน
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
เบี้ยประกันอัคคีภัย
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ตามอัตราของบริษัทประกัน ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
เพื่อสาขาทำการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทประกันภัย
ค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ
ค่าอากรแสตมป์
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
คิด 0.05% ของวงเงินกู้
(ไม่เกิน 10,000 บาท)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
ค่าจดจำนอง
(เรียกเก็บ ณ วันจดจำนองที่กรมที่ดิน)
คิด 1% ของทุนจำนอง  
ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด
(เมื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่นภายใน 3 ปีแรก นับจากวันทำสัญญา)
คิด 3% ของยอดหนี้คงเหลือ -

ช่องทางการสมัคร

สาขาทั่วประเทศ (ในวันทำการ)

ค้นหาสาขา

ติดต่อทีมสินเชื่อบ้านกรุงศรี

โทรศัพท์ : 1572

เอกสารประกอบการสมัคร

  • สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ หย่า/ ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
  • สำเนาใบประกอบวิชาชีพที่ถือไม่น้อยกว่า
    2 ปี และยังไม่หมดอายุ สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ(ถ้ามี)
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
  • หนังสือรับรองการทำงาน หรือสำเนาสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด) (สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • หนังสือรับรองโบนัสประจำ (ถ้ามี)
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (50 ทวิ และ ภงด.90/91) พร้อมใบเสร็จการชำระภาษีย้อนหลัง 2 ปี
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนา ภ.พ.30 พร้อมใบเสร็จ (ถ้ามี)
  • สำเนา ภ.พ.20 (ถ้ามี)
  • สำเนาบริคณห์สนธิ ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ขนาดเท่าตัวจริงทุกหน้า)
  • ใบอนุญาตปลูกสร้าง / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ทด.13) หรือหนังสือสัญญาให้ที่ดิน (ทด.14 )
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และหลักฐานการจ่ายชำระเงินดาวน์ (ถ้ามี)
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน (กรณีถ้ามีสัญญาเงินกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอื่นและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ)
  • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป

ดาวน์โหลดเอกสาร

 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Platinum Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ใหม่จากโครงการในกลุ่ม Platinum Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ใหม่จากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่หรือบ้านมือสอง) สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (อาคารพาณิชย์ใหม่/อาคารพาณิชย์มือสอง) สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่/บ้านมือสอง) จากโครงการทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (อาคารพาณิชย์ใหม่/อาคารพาณิชย์มือสอง) ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF

คำถามที่พบบ่อย

สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) รายละ 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) รายละ 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รอบรู้เรื่องบ้าน

MRR คืออะไร และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สำคัญอย่างไรในการกู้บ้าน

<div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>รู้จักกับ MRR</h2> </div> <strong>MRR (Minimum Retail Rate)</strong> คือ อัตราดอกเบี้ยรูปแบบลอยตัว (Floating Rate) ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ส่วนใหญ่จะใช้คำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยอัตราดอกเบี้ยชนิดนี้มักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายการบริหารทรัพย์สินและหนี้สินของธนาคาร การแข่งขันของตลาด เป็นต้น<br /> &nbsp; <center><img alt="กู้ด้วยดอกเบี้ย mrr สำหรับสินเชื่อบ้าน" class="img-fluid" src="/getmedia/460694c9-df57-464f-9447-f05458e4dd21/what-is-mrr-image-detail.jpg.aspx" /></center> <br /> นั่นเป็นสาเหตุว่า ทำไมบางคนที่ยื่นขอสินเชื่อบ้านอาจพบว่าธนาคารมีการกำหนดอัตรา MRR -0.25% บ้าง -0.50% บ้าง หรืออาจเป็นตัวเลขที่ต่างกันออกไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงก็จะขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารในช่วงนั้น ๆ<br /> <br /> ท่านสามารถอ่านรายละเอียด เกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงอัตราดอกเบี้ย MRR ล่าสุดในปัจจุบันของธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ที่<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/rates/loan-rates/for-loans" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'article','event_action':'click_Text','event_label':'อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม'});" target="_blank">อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม</a> เพื่อนำไปพิจารณาคำนวณสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล ประกอบการตัดสินใจตามความสามารถในการผ่อนชำระของเรา<br /> &nbsp; <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>ข้อแตกต่างของ MRR และดอกเบี้ยชนิดอื่น</h2> </div> เนื่องจากชื่อของดอกเบี้ยลอยตัวมีความคล้ายคลึงกันค่อนข้างมาก ทำให้คนจำนวนไม่น้อยสับสนและคำนวณดอกเบี้ยผิดพลาด Plan You Money จึงได้รวบรวมข้อมูลและจำแนกความแตกต่างของดอกเบี้ยแต่ละประเภทให้คุณได้เข้าใจแบบง่าย ๆ ดังนี้ <div class="table-responsive"><!--icon click show on mobile--> <div class="d-block d-md-none box-hand_touch"><i class="fa fa-arrows hand_touch">&zwnj;</i><br /> &nbsp;</div> <!--End icon click show on mobile--> <table class="table table-scrollable"> <thead> <tr> <th colspan="3">ข้อแตกต่างของ MRR และดอกเบี้ยชนิดอื่นๆ</th> </tr> <tr> <th>ดอกเบี้ย MRR<br /> (Minimum Retail Rate)</th> <th>ดอกเบี้ย MLR<br /> (Minimum Loan Rate)</th> <th>ดอกเบี้ย MOR<br /> (Minimum Overdraft Rate)</th> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td>อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจาก<strong>ลูกค้ารายย่อยชั้นดี</strong> มักใช้กับสินเชื่อส่วนบุคคลและและสินเชื่อบ้านที่เวลาชำระไม่ตายตัวมากนัก</td> <td>อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจาก<strong>ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี</strong> มีประวัติการเงินดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มักใช้กับการกู้ระยะยาวที่มีกำหนดเวลาแน่นอน</td> <td>อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจาก<strong>ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี</strong> ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี ทำให้ธนาคารต้องเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณายิ่งขึ้น</td> </tr> </tbody> </table> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mb-20px-all mt-24px-xs pl-10px-all" id="title-1"> <h2>การคำนวณเงินกู้ด้วยดอกเบี้ย MRR สำหรับสินเชื่อบ้านเบื้องต้น</h2> </div> <strong>ตัวอย่าง</strong> การคิดดอกเบี้ย MRR สำหรับคำนวณค่างวดบ้าน<br /> <br /> คุณ ก. ต้องการขอสินเชื่อบ้านในวงเงินกู้ 2,000,000 บาท MRR 7% โดยธนาคารมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ว่าปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5% ต่อปี ปีที่ 2 MRR-0.25%<br /> <br /> การคำนวณดอกเบี้ยกู้บ้านสำหรับปีที่ 1 เป็นอัตราคงที่ 5% สามารถคำนวณตรง ๆ ได้ทันที<br /> ดอกเบี้ยสำหรับปีที่ 1 = 2,000,000 x 5% = 100,000 บาท<br /> <br /> การคำนวณดอกเบี้ยกู้บ้านสำหรับปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย MRR -0.25%<br /> ให้นำ MRR 7% - 0.25% = 6.75%<br /> ดอกเบี้ยสำหรับปีที่ 2 = 2,000,000 x 6.75% = 135,000 บาท<br /> <br /> จากตัวอย่างการคำนวณสินเชื่อกู้บ้านด้านบนจะเห็นได้ชัดว่า ความแตกต่างของการคิดดอกเบี้ยทั้งสองแบบสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อดอกเบี้ยได้หลักหมื่นบาทเลยทีเดียว และยิ่งเวลาผ่านไปนานก็มีโอกาสที่ดอกเบี้ยบ้านจะเพิ่มขึ้นตามกลไกทางเศรษฐกิจ<br /> <br /> ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านในยุคนี้ควรติดตามสถานการณ์อัตราดอกเบี้ย เพื่อใช้คำนวณเงินผ่อนบ้านเป็นระยะ ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการคำนวณดอกเบี้ยสำหรับซื้อบ้านมือหนึ่ง และดอกเบี้ยบ้านมือสอง รวมถึงพิจารณาเรื่องของการ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/refinance" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'article','event_action':'click_Text','event_label':'รีไฟแนนซ์'});" target="_blank">รีไฟแนนซ์</a>เพื่อให้ได้อัตราเงินกู้ใหม่ที่ดีกว่าเดิม ลดภาระหนี้ในระยะยาว ผนวกกับการวางแผนการเงินระยะยาวเพื่อให้การบริหารจัดการเงินเกี่ยวกับบ้านและชีวิตประจำวันของคุณสามารถผสานเข้าด้วยกันได้ดีไม่มีสะดุด<br /> <br /> <strong>สรุป ดอกเบี้ย MRR หรืออัตราดอกเบี้ยรูปแบบลอยตัว</strong><br /> เห็นได้ชัดเลยว่า ความรู้พื้นฐานด้านการคำนวณสินเชื่อผ่อนบ้าน ทั้งสินเชื่อและดอกเบี้ยนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น ผู้ที่ต้องการกู้ยืมควรศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวให้เข้าใจก่อนดำเนินการธุรกรรม หรือใช้<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/calculator/home-calculator/repayment-amount-calculator" onclick="dataLayer.push({'event':'track_event','event_category':'article','event_action':'click_Text','event_label':'เครื่องมือในการคำนวณสินเชื่อ'});" target="_blank">เครื่องมือในการคำนวณสินเชื่อ</a>ในการขอสินเชื่อกู้ยืมเงินเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณและคนในครอบครัว<br /> <br /> บทความโดย<br /> สิรภัทร เกาฏีระ CFP&reg;<br /> กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล<br /> ธนาคารกรุงศรีอยุธยา <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400; } </style>
ks-coach
3 Min Read
share
รอบรู้เรื่องบ้าน

4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย

<center><img alt="4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/bf521bd8-c7a4-4728-a4e8-b6cccbef981f/4-step-home-loan-1.jpg.aspx" style="width: 100%;" /><img alt="4 Steps กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/355cf456-2de7-48ad-9963-f6ecc048cf60/4-step-home-loan-2.jpg.aspx" style="width: 100%;" /></center> <br /> การตัดสินใจซื้อบ้านในแต่ละครั้งนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตของเรามาก เพราะเป็นการซื้อทรัพย์สินครั้งใหญ่และคงไม่ได้มีโอกาสซื้อบ่อยๆ หลายๆคนก็อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน จึงเกิดความกังวลว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้เราสามารถกู้เงินได้อย่างไม่มีปัญหา มาดูขั้นตอนง่ายๆ ในการซื้อบ้านว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง&nbsp; <h4><strong>1. เตรียมเอกสารการกู้เงิน</strong></h4> <hr class="hry1" /> โดยปกติแล้วธนาคารจะขอข้อมูลและเอกสารต่างๆเพื่อดูว่าเราเป็นใคร ทำงานอาชีพอะไร มีรายได้เท่าไหร่ มีความสามารถในการกู้มากน้อยแค่ใหน และต้องการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านที่ไหน มูลค่าเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วเอกสารที่เราจะต้องเตรียมให้ครบนั้นจึงประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือนและบัญชีเงินฝากย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน และข้อมูลบ้านที่เราจะซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ โฉนดที่ดิน สัญญาจะซื้อจะขายหรือมัดจำ <h4><strong>2. หาอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเปรียบเทียบของแต่ละธนาคาร</strong></h4> <hr class="hry1" /> แน่นอนว่าในแต่ละธนาคารนั้นให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน เราควรจะต้องตรวจสอบและคำนวณความคุ้มค่าของแต่ละข้อเสนอของธนาคาร เช่น เปอร์เซ็นต์วงเงินกู้ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆที่เราต้องจ่าย ระยะเวลาในการกู้ ค่างวดผ่อนชำระเป็นต้น ในเบื้องต้นเราควรคำนวณดูว่าข้อเสนอลักษณะไหนที่เหมาะสมกับความต้องการของเรา และทำการยื่นขอกู้อย่างน้อย 3 ธนาคาร <h4><strong>3. ยื่นเอกสาร รอฟังผลกับทางธนาคารและเลือกธนาคารที่ตรงกับความต้องการ</strong></h4> <hr class="hry1" /> หลังจากที่เรายื่นเอกสารเพื่อขอกู้เงินกับทางธนาคารแล้ว ธนาคารจะทำการพิจารณาดอกเบี้ยและวงเงินตามความเสี่ยงและภาระของเรา หากเราเป็นลูกค้าชั้นดี มีภาระหนี้สินในชีวิตไม่มาก แถมเป็นคนหาเงินเก่งมีเงินเข้าอยู่ตลอดเวลา มีที่มาของรายได้ที่ชัดเจนและมีความมั่นคงธนาคารก็สามารถอนุมัติวงเงินกู้ได้มาก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าได้ ในทางกลับกันหากธนาคารมองเห็นความเสี่ยงทางการเงินเพราะมีรายได้ที่ไม่มั่นคง ไม่พร้อมที่จะเป็นหนี้ ธนาคารก็อาจจะปฏิเสธคำขอกู้เงินหรืออาจจะไม่ได้ให้วงเงินและดอกเบี้ยตามที่เราต้องการได้<br /> &nbsp;<br /> เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญมากๆในการวางแผนก็คือเราจะต้องรักษาประวัติและสร้างเครดิตที่ดีและเตรียมเอกสารที่แสดงถึงความสามารถในการหารายได้ของเราให้ได้พร้อมที่สุด ทั้งนี้เมื่อได้ผลอนุมัติการกู้เงินจากธนาคารต่างๆแล้ว ลองเปรียบเทียบกันดูอีกครั้งว่าข้อเสนอของแต่ละแห่งนั้นมีรายละเอียดแตกต่างอย่างไรบ้างและเราเหมาะสมกับแผนไหน แล้วจึงเลือกใช้บริการธนาคารที่เราเห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด <h4><strong>4. ตรวจรับโอนบ้านและจดจำนอง</strong></h4> <hr class="hry1" /> เมื่อเงินกู้ได้รับการอนุมัติแล้วอย่าลืมนัดกับผู้ขายในการเข้าไปตรวจบ้านให้อยู่ในสภาพที่พร้อมโอน เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วก็ทำการนัดกันระหว่างเราในฐานะผู้ซื้อ ผู้ขายทรัพย์สิน และธนาคารที่เรากู้เงิน ไปทำเรื่องการซื้อขายและจดจำนองที่สำนักงานที่ดินอำเภอ ทุกอย่างจะดำเนินการต่อหน้าเจ้าหน้าที่ โดยธนาคารจะมอบเช็คเพื่อชำระเงินให้กับผู้ขาย ผู้ขายจะทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน โดยที่เราจะต้องทำการจดจำนองว่าธนาคารเป็นผู้ชำระเงินและเราเป็นลูกหนี้ธนาคารที่จะต้องชำระเงินกู้ตามสัญญา โฉนดฉบับจริงนั้นธนาคารจะเป็นผู้เก็บไว้จนกว่าเราจะผ่อนทรัพย์สินได้ทั้งหมด แล้วเราค่อยมาขอคืนในภายหลัง สิ่งที่เราจะได้รับคือกุญแจบ้านในการเข้าไปพักอาศัยได้<br /> <br /> เห็นไหมว่าการกู้เงินซื้อบ้านเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแค่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการกู้ ตั้งแต่การเตรียมเอกสารเพื่อขอกู้ การเปรียบเทียบรายละเอียดของอัตราดอกเบี้ยและข้อมูลต่างๆที่สำคัญเพื่อให้เราสามารถกู้เงินได้ตรงตามความต้องการมากที่สุดเมื่อได้รับวงเงินกู้แล้วก็ทำการนัดผู้ขายและธนาคารมาทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนอง หลังจากนั้นเราก็จะมีบ้านเป็นของตัวเองได้ อย่าลืมสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการกู้เงินก็คือเราจะต้องรักษาประวัติทางการเงินของเราให้ดี<br /> <br /> บทความโดย<br /> ปริตา ธิติปรีชาพล<br /> กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล<br /> ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ks-coach
3 Min Read
share
รอบรู้เรื่องบ้าน

5 เทคนิค อาชีพอิสระขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย

ถ้าย้อนกลับไปในอดีตคงไม่ค่อยมีใครชินกับคำว่า &ldquo;<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/taxes/tax-knowledge/freelance-tax-decuction" target="_blank">อาชีพ Freelance</a>&rdquo; หรือที่เรียกว่า &ldquo;อาชีพอิสระ&rdquo; แต่ในปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่า &ldquo;อาชีพ Freelance&rdquo; ถือเป็นเทรนด์การทำงานแห่งยุค โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคน GEN Z ที่ไม่นิยมทำงานแบบตายตัว ต้องการความเป็นอิสระในการทำงาน แต่ทว่าใครยังไม่รู้จักอาชีพนี้ รวมถึงอาชีพนี้มีความมั่นคงไหม มีสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระที่คิดจะสร้างอนาคตหรือเปล่า? หรือแม้แต่คำถามที่ว่า คนที่มีอาชีพอิสระ ซื้อบ้านได้ไหม? บทความนี้มีคำตอบ<br /> &nbsp; <center><img alt="5 เทคนิค อาชีพอิสระขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/69ab10d1-43de-4228-ac3a-9759da2eec4b/5-step-for-freelance-credit-home-detail-01.jpeg.aspx" /></center> <br /> เหตุผลของคนรุ่นใหม่ที่สนใจในอาชีพ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/freelance-work-life-balance" target="_blank">Freelance</a> คือ มีอิสระในการทำงาน ลองนึกภาพตามว่า ถ้าหากเราสามารถทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สวนสาธารณะ หรือร้านกาแฟ โดยที่ไม่ต้องตื่นเช้าฝ่ารถติดทุกวันเพื่อไปทำงาน ไม่ต้องสแกนบัตรเข้า-ออก ให้ทันเวลา เพราะพวกเขามีอิสระในการทำงาน สามารถจัดตารางการทำงานเองได้ เพียงแค่ขอให้งานเสร็จภายในระยะเวลาที่ตกลงกับลูกค้าก็พอ ไม่เพียงแต่เท่านี้ สำหรับเหล่านักศึกษาเองที่ต้องการหารายได้เสริมระหว่างเรียน อาชีพ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/funds-that-fit-freelancers-lifestyle-part-1" target="_blank">Freelance</a> ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งรายได้ก็อาจจะไม่แน่นอน ไม่เท่ากันทุกเดือนจึงต้องรู้จักบริหารการเงินและมีเงินสำรองในเดือนที่งานน้อยด้วย<br /> <br /> จากคำถามที่ว่าอาชีพอิสระกู้ซื้อบ้านได้ไหม? เราจะพามาดู 5 เทคนิคขอสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระให้ผ่านฉลุย <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">1. เตรียมเอกสารยื่นกู้ให้พร้อม</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">โดยเอกสารพื้นฐานมักประกอบไปด้วย <ul style="margin-left:20px"> <li>สำเนาบัตรประชาชนผู้กู้</li> <li>สำเนาทะเบียนบ้านผู้กู้</li> <li>ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล/ทะเบียนสมรส/ใบหย่า (ถ้ามี)</li> <li>บัญชีเงินเดือนหรือบัญชีรายรับ/รายการเดินบัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน &ndash; 1 ปี</li> <li>ใบจองซื้อ/สำเนาโฉนดที่ดิน</li> <li>เอกสารเพิ่มเติมสำหรับอาชีพ Freelance</li> <li>Statement แสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง อย่างน้อย 12 เดือน</li> <li>ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด.90)</li> <li>ใบเสร็จรับเงินชำระภาษีประจำปี</li> <li>หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร (ใบ 50 ทวิ)</li> <li>ใบสัญญาจ้างงาน อาจมีเอกสารอื่น ๆ ร่วมด้วย</li> </ul> </div> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">2. จ่ายภาษีและยื่นแบบครบถ้วนทุกปี</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">การจ่ายภาษีเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอาชีพ Freelance ไม่ว่าเราจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม ทุก ๆ ปีเราต้องยื่นแบบภาษีภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด เมื่อยื่นแบบภาษีแล้วก็จะได้รับเอกสาร ภ.ง.ด.90 และใบเสร็จ เราควรเก็บย้อนหลังนาน 2-3 ปี เพื่อความฝันอยากมีบ้าน โดยเราจะมาลองแบ่งขั้นตอนจัดการภาษีผ่าน 3 ขั้นตอนดังนี้ <ul style="margin-left:20px"> <li>รวบรวมเงินได้พึงประเมิน คำนวณเงินได้สุทธิ<br /> สิ่งที่เอามาคำนวณภาษี คือ จำนวนเงินได้สุทธิ ที่คิดจากเงินได้พึงประเมิน (หรือทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่าเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี) ต้องเตรียมเอกสาร และคำนวณเงินได้พึงประเมินด้วยตัวเอง หลักฐานสำคัญชิ้นนี้ ก็คือ ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ซึ่งนายจ้างที่จ้างงาน ที่เราจะได้รับจากผู้ว่าจ้าง จ้างด้วยเงินค่าจ้างเกิน 1,000 บาทขึ้นไป ต้องเก็บไว้ให้ดี ๆ เพราะจะสามารถทำให้เราลดหย่อนภาษีได้ดีเลยทีเดียว</li> <li>ค่าใช้จ่าย และการลดหย่อนภาษี<br /> ซึ่งเราจะหักจากเงินได้พึงประเมิน โดยหักแบบเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนรายการที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ก็มาจากการทำประกัน&nbsp;ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันสังคม หรือแม้แต่ หุ้น กองทุน LTF หรือ RMF นั่นเอง</li> <li>พร้อมแล้วยื่นภาษีเลย!<br /> สำหรับการยื่นภาษีสามารถก็ทำได้ 2 วิธี คือ <ul> <li>ยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 ด้วยตัวเอง ที่สำนักงานกรมสรรพากรในจังหวัดที่เราอยู่&nbsp;</li> <li>ยื่นออนไลน์ ในเว็บไซต์กรมสรรพากร แล้วชำระภาษีผ่านธนาคาร&nbsp;ไปรษณีย์ และบัตรเครดิต สะดวกสบายชำระได้หลายทาง</li> </ul> </li> </ul> </div> &nbsp; <center><img alt="5 เทคนิค อาชีพอิสระขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/f42c48eb-904e-4fbd-9889-efc677fa5407/5-step-for-freelance-credit-home-detail-02.jpeg.aspx" /></center> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">3. ไม่มีหนี้สิน ไม่ติดเครดิตบูโร</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">เนื่องจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารจะขอให้เราเซ็นยินยอมให้มีการตรวจสอบประวัติทางธุรกรรมโดยผู้ดำเนินการเก็บข้อมูลไม่ว่าจะเป็น ผ่อนจ่ายบัตรเครดิต ผ่อนรถ ผ่อนสินค้า บัตรกดเงินสด หรือรายการทำธุรกรรมต่าง ๆ คือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือที่เรียกติดปากว่า &ldquo;เครดิตบูโร&rdquo; นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากเรามีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ดี ไม่มีหนี้สินก็จะทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ ของเราสะดวกยิ่งขึ้น</div> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">4. วินัยในการออมเงินสำคัญมาก</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">การที่เรามีบัญชีเงินออม ฝากเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยแสดงศักยภาพและความมีวินัยด้านการเงินของเรา แม้ว่าจะทำอาชีพ Freelance ก็ตาม ทั้งนี้สามารถเลือกบัญชีเงินออมทรัพย์ของธนาคารไหนก็ได้อีกเช่นกัน</div> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">5. กู้ร่วม คือทางเลือกเพื่อให้สินเชื่อผ่านง่ายขึ้น </span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">&ldquo;กู้ร่วม&rdquo; คือ การร่วมทำสัญญาเงินกู้สินเชื่อก้อนเดียวกัน เพื่อให้ทางธนาคารเห็นว่าจะมีอีกคนมาช่วยรับผิดชอบในวงเงินกู้ เพิ่มความมั่นใจความสามารถในการผ่อนชำระได้ตามกำหนด ทำให้ขออนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เปรียบเสมือนทางเลือกที่ทำให้ง่ายขึ้นด้วยวิธีการหาผู้กู้ร่วมในเครือญาติ หรือสามีภรรยามาร่วมรับภาระผ่อนวงเงินกู้ด้วยกัน ซึ่งผู้ที่กู้ร่วมกับเราก็จำเป็นต้องมีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจนเช่นกัน<br /> <br /> นี่ก็เป็น 5 เทคนิคง่าย ๆ ในการขอสินเชื่อบ้านที่เราหยิบยกมาแนะนำให้อาชีพ Freelance นั่นเอง และสำหรับฟรีแลนซ์ท่านใดที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านเราขอแนะนำ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/homeloan" target="_blank">สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อที่อยู่อาศัย</a> ที่ไม่ว่าจะวางแผนซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง ก็สามารถกู้ซื้อบ้านได้ แถมเริ่มคำนวณสินเชื่อด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ อีกด้วย<br /> <br /> และไม่ว่าคนรุ่นใหม่ที่มีอาชีพอิสระฝันอยากมีบ้านคุณก็สามารถมีได้ แถมไม่ใช่เรื่องยากเลยหากเราทำตามคำแนะนำ พร้อมทั้งเราได้ลงมือทำ ทุกความฝันของเราก็จะเร็วขึ้นนั่นเอง&hellip;</div> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
4 Min Read
share