สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ

ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก
1.99%*
ประเมินหลักประกัน
ฟรี**
ค่าจดจำนอง
ฟรี***
ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย
0.25%****
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว l อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.194% - 4.656%​ ต่อปี*​

*สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 = 7.275% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ รายละเอียดดอกเบี้ยและการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ใน Fact sheet คลิก
**ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68)
***ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น
****เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ

กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

This site is protected by reCAPTCHA and the Google
Privacy Policy and Terms of Service apply.

รายละเอียด

  • มีสถานะเป็นลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ (กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เป็นบริการพิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลที่มียอดรวมเงินฝาก/เงินลงทุนตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก)
  • บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
  • พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
  • ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
  • ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ ซึ่งสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ได้
ประเภท จำนวนเงินที่เรียกเก็บ ช่องทางการชำระเงิน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน
(วงเงินกู้รวมต่อหลักประกันไม่เกิน 100 ล้านบาท)
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
3,210 บาท ต่อหลักประกัน
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
เบี้ยประกันอัคคีภัย
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
ตามอัตราของบริษัทประกัน ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
เพื่อสาขาทำการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทประกันภัย
ค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ
ค่าอากรแสตมป์
(เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
คิด 0.05% ของวงเงินกู้
(ไม่เกิน 10,000 บาท)
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค
หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ
(ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
ค่าจดจำนอง
(เรียกเก็บ ณ วันจดจำนองที่กรมที่ดิน)
คิด 1% ของทุนจำนอง  
ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด
(เมื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่นภายใน 3 ปีแรก นับจากวันทำสัญญา)
คิด 3% ของยอดหนี้คงเหลือ -

ช่องทางการสมัคร

สาขาทั่วประเทศ (ในวันทำการ)

ค้นหาสาขา

ติดต่อทีมสินเชื่อบ้านกรุงศรี

โทรศัพท์ : 1572

เอกสารประกอบการสมัคร

  • สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ หย่า/ ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
  • สำเนาใบประกอบวิชาชีพที่ถือไม่น้อยกว่า
    2 ปี และยังไม่หมดอายุ สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ(ถ้ามี)
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
  • หนังสือรับรองการทำงาน หรือสำเนาสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด) (สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • หนังสือรับรองโบนัสประจำ (ถ้ามี)
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
  • แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (50 ทวิ และ ภงด.90/91) พร้อมใบเสร็จการชำระภาษีย้อนหลัง 2 ปี
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนา ภ.พ.30 พร้อมใบเสร็จ (ถ้ามี)
  • สำเนา ภ.พ.20 (ถ้ามี)
  • สำเนาบริคณห์สนธิ ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ขนาดเท่าตัวจริงทุกหน้า)
  • ใบอนุญาตปลูกสร้าง / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ทด.13) หรือหนังสือสัญญาให้ที่ดิน (ทด.14 )
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน (กรณีถ้ามีสัญญาเงินกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอื่นและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ)
  • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป
  • สำเนาสัญญากู้เงินกับสถาบันการเงินเดิม
  • สำเนาใบเสร็จเงินกู้เดือนล่าสุด

ดาวน์โหลดเอกสาร

 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Platinum Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรี สำหรับลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากโครงการในกลุ่ม Premium Developers ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรีสำหรับลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่/บ้านมือสอง) จากโครงการทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF
 
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรุงศรีสำหรับลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (อาคารพาณิชย์ใหม่/อาคารพาณิชย์มือสอง) ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 30 เม.ย. 68
PDF

คำถามที่พบบ่อย

สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) รายละ 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
วงเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาทขึ้นไป
กรณีซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่ / บ้านมือสอง)
  • หลักประกันประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮม : สูงสุด 90 % ของราคาประเมิน (สำหรับโครงการทั่วไป)
  • หลักประกันประเภทห้องชุดพักอาศัย : สูงสุด 85 % ของราคาประเมิน
  • หลักประกันประเภทอาคารพาณิชย์ : สูงสุด 90% ของราคาประเมิน
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง
สามารถยื่นกู้ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ทุกสาขาทั่วประเทศ
เอกสารประกอบการสมัครที่ใช้ในการสมัคร มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
  • เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน)
  • เอกสารแสดงรายได้ (เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน)
  • เอกสารทางด้านหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย) สามารถตรวจสอบได้ตามประเภทของการขอสินเชื่อนั้น ๆ
สามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น
ได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องชำระมีดังนี้
  • ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) รายละ 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) คิด 0.05 % ของวงเงินกู้
  • เบี้ยประกันอัคคีภัย ตามอัตราของบริษัทประกัน (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา)
วงเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาทขึ้นไป
กรณีซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่ / บ้านมือสอง)
  • หลักประกันประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮม : สูงสุด 90 % ของราคาประเมิน (สำหรับโครงการทั่วไป)
  • หลักประกันประเภทห้องชุดพักอาศัย : สูงสุด 85 % ของราคาประเมิน
  • หลักประกันประเภทอาคารพาณิชย์ : สูงสุด 90% ของราคาประเมิน
ระยะเวลาการกู้ : สูงสุด 30 ปี (อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี)
ลูกค้าสามารถชำระค่างวดผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ได้แก่ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ชำระโดยหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ผ่านบัญชีเงินฝากของ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชำระผ่าน krungsri app ชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต Krungsri Online และชำระผ่าน ตู้ ATM นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเพิ่มช่องทางการชำระอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ชำระที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-11 ชำระที่ที่ทำการไปรษณีย์ และชำระที่จุดบริการรับชำระของโลตัส

โปรดศึกษาวิธีการสมัคร krungsri app และการชำระเงิน คลิก
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รอบรู้เรื่องบ้าน

เตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน 5 รายจ่ายที่ต้องใช้เงินสด

<div><div class="text-content"><div style="display:block;padding:10px;border:solid 3px #FD0;font-size:12pt;text-align:center;"><h2 class="ar-text-content fz-18px-all-i"><strong>พอทำงานมาได้สักพัก เราอาจจะคิดเรื่องการก่อร่างสร้างตัว อยากมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง พยายามเก็บหอมรอมริบ ดูลู่ทางธนาคารเพื่อเตรียมกู้เงินมาซื้อบ้าน ผู้ซื้อบ้านมือใหม่อาจคิดว่า หากขอกู้ธนาคารผ่านก็เป็นอันได้บ้านหลังใหม่มาครอบครอง แต่จริง ๆ แล้วมีขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านที่จะต้องทำให้พร้อม นั่นก็คือ การเตรียมเงินสดสำรองไว้อีกก้อนหนึ่งต่างหาก เพื่อรองรับกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นานาที่มาพร้อมกับภาระการกู้เงินผ่อนบ้าน</strong></h2></div>&nbsp;<div style="width:100%;clear:both;padding:20px;background:#FD0;font-size:12pt;text-align:center;">เรามาดูเช็กลิสต์กันดีกว่าครับว่า มีสิ่งใดบ้าง ที่เราต้องเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเป็นเงินสดตอนซื้อบ้าน จะได้<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/mortgages/5-signs-absolutely-not-ready-to-own-a-home-part1" target="_blank">ประเมินตนเอง</a>และตั้งเป้าหมายการเงินไว้ให้พร้อม</div>&nbsp;<h2 class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs"><span class="ar-sub-title mt-40px-all bottom-line">1. ค่าโอนบ้าน</span></h2><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ก่อนที่เราจะซื้อบ้าน เราต้องทราบก่อนว่าในการซื้อบ้านจะมีค่าโอนบ้านที่จะต้องจ่ายด้วยเงินสด ฉะนั้นเราจะต้องกันเงินส่วนนี้เอาไว้ ซึ่งในเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านนั้น หลายคนอาจจะคิดว่าโครงการบ้านหลายๆ โครงการต่างออกโปรโมชันที่มีข้อเสนออย่างฟรีค่าโอน ค่าอากร และค่าธรรมเนียมต่างๆ แต่การเตรียมพร้อมเรื่องเงินเอาไว้ก็ไม่เสียหาย จะได้สร้างความอุ่นใจด้วยครับ</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายแก่กรมที่ดิน เมื่อต้องการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดิน อันได้แก่</div><div class="pl-35px-all"><ul> <li class="ar-text-content">ค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าที่จำนอง (จำนวนเงินกู้ทั้งหมด)</li> <li class="ar-text-content">ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย</li> <li class="ar-text-content">ค่าอากร 0.5% ของราคาซื้อขาย</li></ul></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ผู้ซื้อและผู้ขายควรทำข้อตกลงกันตั้งแต่ตอนตกลงซื้อขาย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ซึ่งเงินในส่วนนี้ต้องเตรียมเป็นเงินสดครับ</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">แต่หากเราไม่ได้วางแผนเพื่อเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน ณ ช่วงเวลานั้นเราหมุนเงินไม่ทัน เงินสดไม่พอจ่าย <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/situations-that-personal-loan-can-be-alleviate" target="_blank">สินเชื่อส่วนบุคคล</a>ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเลือกกู้ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ เราสามารถกู้ได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องไปถึงธนาคาร อย่างเช่น สินเชื่อส่วนบุคคล <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/personal-loans/revolving-loan/ifin-apply-mobile" target="_blank">Krungsri iFIN</a> เป็นสินเชื่อเงินกู้ออนไลน์ เพียงแค่มี<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/getting-to-know-kma-features" target="_blank">แอพพลิเคชั่น KMA</a> ก็สามารถยื่นเรื่องกู้ได้ผ่านมือถือ สะดวกสบาย ขั้นตอนไม่เยอะ</div><h2 class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs"><span class="ar-sub-title mt-40px-all bottom-line">2. ค่าจองและค่าส่วนกลาง</span></h2><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ค่าจองและค่าส่วนกลาง เป็นหนึ่งในเช็กลิสต์ของรายการเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านที่เราต้องจดไว้ เนื่องจากบ้านหรือคอนโดบางโครงการจะเรียกเก็บค่าส่วนกลางล่วงหน้า บางที่จะเรียกเก็บประมาณ 1 ปี ซึ่งนับเป็นจำนวนเงินหลักหมื่น หากไม่เตรียมการไว้จะขาดสภาพคล่องแน่นอนครับ เราจึงต้องเช็กค่าใช้จ่ายส่วนนี้กับทางโครงการก่อน และเก็บออมเงินก่อนตัดสินใจซื้อ</div><div class="mt-ar-text1" style="text-align: center;"><img class="img-fluid" src="/getmedia/36cb3e14-5b9e-4206-bf3c-e122a72f30cb/new-home-loan-tips.jpg.aspx" /></div><h2 class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs"><span class="ar-sub-title mt-40px-all bottom-line">3. ค่าตกแต่งบ้าน</span></h2><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เชื่อว่าในการเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านของหลายคนจะต้องมีการตกแต่ง และ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/maximize-your-loan-for-house-improvement" target="_blank">ต่อเติมบ้าน</a>ให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของเราอยู่ดี เราจึงควร<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/best-money-saving-decorating-ideas-for-your-home" target="_blank">เตรียมเงินสดสำรอง</a>ส่วนนี้ไว้ ในระหว่างที่โครงการกำลังสร้าง เราอาจจะใช้เวลาช่วงนี้ เก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อรอแต่งบ้านก่อนจะย้ายเข้าครับ</div><h2 class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs"><span class="ar-sub-title mt-40px-all bottom-line">4. ค่าประกันอัคคีภัย ค่าประกันภัยพิบัติ</span></h2><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ค่าประกันอัคคีภัย เป็น<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/what-are-the-benefits-of-home-insurance" target="_blank">ประกันที่คุ้มครองความปลอดภัยของตัวบ้าน</a> ในกรณีเกิดไฟฟ้าลัดวงจร แก๊สรั่ว ไฟไหม้ ซึ่ง<b>เป็นสิ่งที่กฎหมายบังคับว่าต้องทำครับ โดยยอดจะอยู่ที่ 0.1% ของราคาบ้าน</b></div><div class="ar-text-content mt-40px-all">นอกจากนี้เมื่อเราเตรียมตัวที่จะซื้อบ้าน เราควรพิจารณาประกันภัยพิบัติไว้เป็นทางเลือกเสริม เพราะแม้ไม่ได้บังคับให้ทำ แต่อาจจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ในกรณีที่เกิดอุทกภัย แผ่นดินไหว เป็นต้น โดยประกันส่วนนี้จะจ่ายค่าสินไหมชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านของเราครับ</div><h2 class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs"><span class="ar-sub-title mt-40px-all bottom-line">5. ค่าประกันสินเชื่อบ้าน หรือประกันคุ้มครองหลักทรัพย์</span></h2><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ประกันสินเชื่อบ้าน หรือประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งประกันที่เราต้องพิจารณาในช่วงเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน ซึ่งจะคุ้มครองในกรณีผู้กู้เสียชีวิตหรือไม่สามารถชำระค่างวดบ้านต่อได้ วงเงินส่วนนี้จะคุ้มครองวงเงินที่บริษัทประกันจะชดใช้แก่ธนาคาร ไม่ตกเป็นภาระของคนในครอบครัว<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/what-are-the-benefits-of-home-insurance" target="_blank">ประกันตัวนี้</a>จะถูกนำเสนอพร้อมกับการทำสินเชื่อบ้าน โดยไม่บังคับว่าต้องทำ แต่อาจถูกนำเสนอในรูปแบบที่ว่าหากทำประกันตัวนี้จะลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ซึ่งยอดค่าทำประกันค่อนข้างสูง บางคนอาจมองว่าไม่จำเป็น แต่หากผู้กู้เป็นหัวหน้าครอบครัวก็ควรพิจารณาทำไว้ครับ</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">หลังจากทราบค่าใช้จ่ายในการกู้ซื้อบ้านแล้ว หลายคนอาจฉุกคิดและกลับไปประเมินตนเองกันใหม่ว่าพร้อมที่จะซื้อบ้านหรือยัง และเราเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านดีแค่ไหน การซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องยากครับ บางครั้งสินเชื่อบางธนาคารจะมีโปรโมชั่นผ่อนชำระแบบดอกเบี้ยต่ำด้วย หากเรามีเงินก้อนในอนาคตก็สามารถนำมาโปะได้เพื่อลดต้นลดดอก เรื่องซื้อบ้านเราจึงควรหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อ หรือหากอยากรู้ว่าควรออมเงินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ ลองใช้เครื่องมือ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/planyourmoney/life-goals" target="_blank">Plan Your Money</a> ของธนาคารกรุงศรีฯ ดูก็ได้ครับ</div></div></div>
ks-coach
3 Min Read
share
รอบรู้เรื่องบ้าน

วิธีคำนวณดอกเบี้ยผ่อนบ้านง่าย ๆ

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content">หลักการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อบ้านเบื้องต้น<br /><br />ปกติแล้วทางธนาคารจะกำหนดให้ผู้กู้ชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย โดยกำหนดจำนวนค่างวดตายตัวเป็นตารางชำระตั้งแต่วันทำสัญญาว่า แต่ละงวดจะต้องจ่ายเท่าไหร่ เช่น งวดละ 20,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะรวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ทางธนาคารได้คำนวณมาเรียบร้อยแล้ว</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">เงินค่างวดในปีแรก ๆ จะเป็นการชำระดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ และเป็นการลดเงินต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อผ่อนไปเรื่อย ๆ เงินต้นก็จะเริ่มถูกตัดไปเรื่อย ๆ ทำให้ดอกเบี้ยในแต่ละเดือนที่เราจ่ายก็น้อยลงไปตามสัดส่วน ซึ่งสวนทางกับค่างวดในปีแรก ๆ นั่นเองครับ</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">การคำนวณค่างวดตายตัว ธนาคารจะใช้ตัวเลข MLR แบบสมมติสำหรับงวดในอนาคต เพราะเป็นตัวเลขที่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ทางธนาคารมักจะคิดเงินค่างวดเผื่อเอาไว้ก่อน โดยจะทำการคำนวณค่างวดจากอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในอัตราสูงเอาไว้ก่อนบนอัตรา MLR ในอนาคต เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้ผู้กู้ถ้าหาก MLR เพิ่มสูงขึ้นในภายหลังนั่นเอง โดยผู้กู้ไม่ต้องชำระค่างวดเพิ่ม เพราะคำนวณเผื่อเอาไว้แล้ว หาก MLR ต่ำกว่าตัวเลขที่สมมติไว้ เราก็จะจ่ายค่างวดตามเวลาครบจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หนี้หมดก่อนกำหนดได้ เพราะเงินค่างวดที่เราชำระมามันมีส่วนเกินนั่นเองครับ ไม่ต้องห่วงว่าเงินที่เราชำระทุกเดือน ๆ จะหายไปไหน หากเป็นการใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทางธนาคารอาจจะให้ผู้กู้ทำการชำระเงินค่างวดเกินกว่าจำนวนตายตัวที่กำหนดเอาไว้ได้ ซึ่งจะทำให้เราสามารถปิดเงินกู้ได้เร็วขึ้นหากเราสามารถหาเงินมาโปะได้เยอะ แต่ธนาคารมักจะไม่ยอมให้จ่ายค่างวดเกินหากใช้อัตราดอกเบี้ยตายตัว</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">(<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/how-to-choose-the-right-home-loan" target="_blank">ศึกษาการเลือกสินเชื่อบ้านให้ผ่อนได้สบาย ๆ</a>)</div><div class="ar-text-content mt-40px-all"><h2 style="float: left; padding: 10px; background: rgb(255, 221, 0); margin: 0px 20px 5px 0px; font-size: 14pt;">วิธีการคำนวณดอกเบี้ยแบบง่าย ๆ</h2></div>&nbsp;<div class="ar-text-content mt-40px-all">คุณสามารถใช้บริการเครื่องคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ โดยสามารถค้นหาออนไลน์ หรือคำนวณด้วยเครื่องคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้บ้านได้ที่ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/calculator" target="_blank"><span>Krungsri Calculators</span></a></div><div class="ar-text-content mt-40px-all">คุณสามารถคำนวณเพื่อดูความสามารถในการกู้ ความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน ระยะเวลาการกู้ยืม วงเงิน และคำนวณดูว่าคุณจะสามารถประหยัดดอกเบี้ยได้แค่ไหนหากทำรีไฟแนนซ์</div><div class="ar-text-content mt-40px-all"><div style="display: block; padding: 10px; border: 3px solid rgb(255, 221, 0); margin: 0px 20px 10px 0px; font-size: 12pt; float: left;"><strong>ประเภทอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน</strong></div></div>&nbsp; <!-- start text sub title --><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">1. เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed rate loan)</h2></div><!-- start text sub title --><hr class="hry1" /> <!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">หมายถึง เงินกู้ที่มีกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ระยะสั้นประมาณ 1-5 ปี จากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งต้องวัดกันว่าลอยตัวแล้วดอกเบี้ยจะสูงหรือจะต่ำ</div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --> <!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all">อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ หมายถึง เงินกู้ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบไม่มีการปรับเปลี่ยนขึ้นลง ตามสภาพตลาดเงิน หรือต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงิน</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --> <!-- ข้อความห่างจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-40px-all">อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้น แบบขั้นบันใดในช่วงแรกแล้วปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง เงินกู้ที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นประมาณ 1-5 ปี แต่ระหว่างนี้อาจมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่แบบขั้นบันใด คือ คงที่ 2 ปีที่ 3.25% ปีที่สอง 4.25% เป็นต้น จากนั้นก็จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวแทน</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --> <!-- start text sub title --><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">2. เงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating rate loan)</h2></div><!-- start text sub title --><hr class="hry1" /> <!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เป็นเงินกู้ที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในเวลาปัจจุบัน และใช้อัตรานี้ไปในระยะเวลาหนึ่ง ต่อมาอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้น-ลงได้ตามสภาพตลาดการเงิน หรือต้นทุนการเงินของสถาบันการเงิน จะไม่สามารถทราบว่าจะมีการปรับใหม่เมื่อไหร่ บางปีอาจจะมีการปรับหลายครั้ง บางปีอาจไม่มีการปรับเปลี่ยนเลย โดยจะมีผลต่อจำนวนเงินงวดที่ต้องชำระในแต่ละเดือน</div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --> <!-- start text sub title --><div class="row ar-mg-rm mt-40px-xl mt-24px-xs"><h2 class="ar-text-sub-title">3. เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง และปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา (Rollover mortgage loan)</h2></div><!-- start text sub title --><hr class="hry1" /> <!-- ข้อความชิดจากด้านบน --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง เช่น 3-5 ปี แล้วมีการปรับเป็นอัตราคงที่ใหม่ทุก 3-5 ปีตลอดระยะเวลากู้นาน 25-30 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในแต่ละช่วงก็จะคงที่</div><!-- ข้อความชิดจากด้านบน --></div>
ks-guru
3 Min Read
share
รอบรู้เรื่องบ้าน

5 เทคนิค อาชีพอิสระขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย

ถ้าย้อนกลับไปในอดีตคงไม่ค่อยมีใครชินกับคำว่า &ldquo;<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/taxes/tax-knowledge/freelance-tax-decuction" target="_blank">อาชีพ Freelance</a>&rdquo; หรือที่เรียกว่า &ldquo;อาชีพอิสระ&rdquo; แต่ในปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่า &ldquo;อาชีพ Freelance&rdquo; ถือเป็นเทรนด์การทำงานแห่งยุค โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคน GEN Z ที่ไม่นิยมทำงานแบบตายตัว ต้องการความเป็นอิสระในการทำงาน แต่ทว่าใครยังไม่รู้จักอาชีพนี้ รวมถึงอาชีพนี้มีความมั่นคงไหม มีสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระที่คิดจะสร้างอนาคตหรือเปล่า? หรือแม้แต่คำถามที่ว่า คนที่มีอาชีพอิสระ ซื้อบ้านได้ไหม? บทความนี้มีคำตอบ<br /> &nbsp; <center><img alt="5 เทคนิค อาชีพอิสระขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/69ab10d1-43de-4228-ac3a-9759da2eec4b/5-step-for-freelance-credit-home-detail-01.jpeg.aspx" /></center> <br /> เหตุผลของคนรุ่นใหม่ที่สนใจในอาชีพ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/freelance-work-life-balance" target="_blank">Freelance</a> คือ มีอิสระในการทำงาน ลองนึกภาพตามว่า ถ้าหากเราสามารถทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สวนสาธารณะ หรือร้านกาแฟ โดยที่ไม่ต้องตื่นเช้าฝ่ารถติดทุกวันเพื่อไปทำงาน ไม่ต้องสแกนบัตรเข้า-ออก ให้ทันเวลา เพราะพวกเขามีอิสระในการทำงาน สามารถจัดตารางการทำงานเองได้ เพียงแค่ขอให้งานเสร็จภายในระยะเวลาที่ตกลงกับลูกค้าก็พอ ไม่เพียงแต่เท่านี้ สำหรับเหล่านักศึกษาเองที่ต้องการหารายได้เสริมระหว่างเรียน อาชีพ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/funds-that-fit-freelancers-lifestyle-part-1" target="_blank">Freelance</a> ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งรายได้ก็อาจจะไม่แน่นอน ไม่เท่ากันทุกเดือนจึงต้องรู้จักบริหารการเงินและมีเงินสำรองในเดือนที่งานน้อยด้วย<br /> <br /> จากคำถามที่ว่าอาชีพอิสระกู้ซื้อบ้านได้ไหม? เราจะพามาดู 5 เทคนิคขอสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระให้ผ่านฉลุย <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">1. เตรียมเอกสารยื่นกู้ให้พร้อม</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">โดยเอกสารพื้นฐานมักประกอบไปด้วย <ul style="margin-left:20px"> <li>สำเนาบัตรประชาชนผู้กู้</li> <li>สำเนาทะเบียนบ้านผู้กู้</li> <li>ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล/ทะเบียนสมรส/ใบหย่า (ถ้ามี)</li> <li>บัญชีเงินเดือนหรือบัญชีรายรับ/รายการเดินบัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน &ndash; 1 ปี</li> <li>ใบจองซื้อ/สำเนาโฉนดที่ดิน</li> <li>เอกสารเพิ่มเติมสำหรับอาชีพ Freelance</li> <li>Statement แสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง อย่างน้อย 12 เดือน</li> <li>ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด.90)</li> <li>ใบเสร็จรับเงินชำระภาษีประจำปี</li> <li>หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร (ใบ 50 ทวิ)</li> <li>ใบสัญญาจ้างงาน อาจมีเอกสารอื่น ๆ ร่วมด้วย</li> </ul> </div> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">2. จ่ายภาษีและยื่นแบบครบถ้วนทุกปี</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">การจ่ายภาษีเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอาชีพ Freelance ไม่ว่าเราจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม ทุก ๆ ปีเราต้องยื่นแบบภาษีภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด เมื่อยื่นแบบภาษีแล้วก็จะได้รับเอกสาร ภ.ง.ด.90 และใบเสร็จ เราควรเก็บย้อนหลังนาน 2-3 ปี เพื่อความฝันอยากมีบ้าน โดยเราจะมาลองแบ่งขั้นตอนจัดการภาษีผ่าน 3 ขั้นตอนดังนี้ <ul style="margin-left:20px"> <li>รวบรวมเงินได้พึงประเมิน คำนวณเงินได้สุทธิ<br /> สิ่งที่เอามาคำนวณภาษี คือ จำนวนเงินได้สุทธิ ที่คิดจากเงินได้พึงประเมิน (หรือทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่าเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี) ต้องเตรียมเอกสาร และคำนวณเงินได้พึงประเมินด้วยตัวเอง หลักฐานสำคัญชิ้นนี้ ก็คือ ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ซึ่งนายจ้างที่จ้างงาน ที่เราจะได้รับจากผู้ว่าจ้าง จ้างด้วยเงินค่าจ้างเกิน 1,000 บาทขึ้นไป ต้องเก็บไว้ให้ดี ๆ เพราะจะสามารถทำให้เราลดหย่อนภาษีได้ดีเลยทีเดียว</li> <li>ค่าใช้จ่าย และการลดหย่อนภาษี<br /> ซึ่งเราจะหักจากเงินได้พึงประเมิน โดยหักแบบเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนรายการที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ก็มาจากการทำประกัน&nbsp;ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันสังคม หรือแม้แต่ หุ้น กองทุน LTF หรือ RMF นั่นเอง</li> <li>พร้อมแล้วยื่นภาษีเลย!<br /> สำหรับการยื่นภาษีสามารถก็ทำได้ 2 วิธี คือ <ul> <li>ยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 ด้วยตัวเอง ที่สำนักงานกรมสรรพากรในจังหวัดที่เราอยู่&nbsp;</li> <li>ยื่นออนไลน์ ในเว็บไซต์กรมสรรพากร แล้วชำระภาษีผ่านธนาคาร&nbsp;ไปรษณีย์ และบัตรเครดิต สะดวกสบายชำระได้หลายทาง</li> </ul> </li> </ul> </div> &nbsp; <center><img alt="5 เทคนิค อาชีพอิสระขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุย" class="img-fluid" src="/getmedia/f42c48eb-904e-4fbd-9889-efc677fa5407/5-step-for-freelance-credit-home-detail-02.jpeg.aspx" /></center> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">3. ไม่มีหนี้สิน ไม่ติดเครดิตบูโร</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">เนื่องจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารจะขอให้เราเซ็นยินยอมให้มีการตรวจสอบประวัติทางธุรกรรมโดยผู้ดำเนินการเก็บข้อมูลไม่ว่าจะเป็น ผ่อนจ่ายบัตรเครดิต ผ่อนรถ ผ่อนสินค้า บัตรกดเงินสด หรือรายการทำธุรกรรมต่าง ๆ คือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือที่เรียกติดปากว่า &ldquo;เครดิตบูโร&rdquo; นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากเรามีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ดี ไม่มีหนี้สินก็จะทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ ของเราสะดวกยิ่งขึ้น</div> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">4. วินัยในการออมเงินสำคัญมาก</span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">การที่เรามีบัญชีเงินออม ฝากเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยแสดงศักยภาพและความมีวินัยด้านการเงินของเรา แม้ว่าจะทำอาชีพ Freelance ก็ตาม ทั้งนี้สามารถเลือกบัญชีเงินออมทรัพย์ของธนาคารไหนก็ได้อีกเช่นกัน</div> <div class="ar-sub-title mt-40px-all"> <h2><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-size: 20px; font-weight: bold;">5. กู้ร่วม คือทางเลือกเพื่อให้สินเชื่อผ่านง่ายขึ้น </span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">&ldquo;กู้ร่วม&rdquo; คือ การร่วมทำสัญญาเงินกู้สินเชื่อก้อนเดียวกัน เพื่อให้ทางธนาคารเห็นว่าจะมีอีกคนมาช่วยรับผิดชอบในวงเงินกู้ เพิ่มความมั่นใจความสามารถในการผ่อนชำระได้ตามกำหนด ทำให้ขออนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เปรียบเสมือนทางเลือกที่ทำให้ง่ายขึ้นด้วยวิธีการหาผู้กู้ร่วมในเครือญาติ หรือสามีภรรยามาร่วมรับภาระผ่อนวงเงินกู้ด้วยกัน ซึ่งผู้ที่กู้ร่วมกับเราก็จำเป็นต้องมีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจนเช่นกัน<br /> <br /> นี่ก็เป็น 5 เทคนิคง่าย ๆ ในการขอสินเชื่อบ้านที่เราหยิบยกมาแนะนำให้อาชีพ Freelance นั่นเอง และสำหรับฟรีแลนซ์ท่านใดที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านเราขอแนะนำ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/homeloan" target="_blank">สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อที่อยู่อาศัย</a> ที่ไม่ว่าจะวางแผนซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง ก็สามารถกู้ซื้อบ้านได้ แถมเริ่มคำนวณสินเชื่อด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ อีกด้วย<br /> <br /> และไม่ว่าคนรุ่นใหม่ที่มีอาชีพอิสระฝันอยากมีบ้านคุณก็สามารถมีได้ แถมไม่ใช่เรื่องยากเลยหากเราทำตามคำแนะนำ พร้อมทั้งเราได้ลงมือทำ ทุกความฝันของเราก็จะเร็วขึ้นนั่นเอง&hellip;</div> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px; } </style>
ks-coach
4 Min Read
share